สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ว่าเดอะ ไทม์ส ออฟ อินเดีย เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวถึงการที่พรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองสายอนุรักษนิยม สามารถคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไป ได้อย่างน้อยสองสมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2557 และมีแนวโน้มรักษาชัยชนะเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน จากการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 เม.ย. จนถึงวันที่ 1 มิ.ย. ว่าเป็นเพราะ “ฝ่ายค้านไม่มีศักยภาพ” จึงกล่าวหารัฐบาล ด้วยวาทกรรม “เผด็จการประชาธิปไตย”


ผู้นำอินเดียกล่าวต่อไปว่า การเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านในเวลานี้ ซึ่งนำโดยพรรคคองเกรสของนายราหุล คานธี เป็นการทำลายชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของประเทศ ตลอดจนสถาบันประชาธิปไตยของอินเดีย แม้มีเสียงวิจารณ์มากมายจากทั้งในและต่างประเทศ เกี่ยวกับบรรยากาศด้านเสรีภาพ ในการแสดงความเห็นทางการเมืองของอินเดีย ซึ่งลดลงมากตามการจัดอันดับขององค์กรหลายแห่ง นับตั้งแต่โมดีเข้ามาบริหารประเทศ และก่อนการเลือกตั้งเปิดฉากไม่นาน นักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนถูกจับกุม รวมถึงนายอรวินท์ เกจริวัล มุขมนตรีกรุงนิวเดลี


ทั้งนี้ โมดีแสดงความเชื่อมั่นว่า พรรคบีเจพีและพันธมิตรจะร่วมกันกวาดที่นั่งได้ไม่ต่ำกว่า 400 ที่นั่ง จากทั้งหมด 543 ที่นั่งของโลกสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากสามารถทำได้จริง จะเป็นผลงานดีที่สุดของพรรคบีเจพีและพันธมิตร


อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์การเลือกตั้งโดยสื่อท้องถิ่นหลายแห่ง เป็นไปในทางเดียวกัน ว่าจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิจนถึงตอนนี้ น้อยกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 โดยปัจจัยหลัก คือสภาพอากาศร้อนจัดที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งเป็นผลจากปรากฏการณ์เอลนีโญ.

เครดิตภาพ : AFP