เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท., พ.ต.อ.รุ่งเลิศ คันธจันทร์ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. สั่งการให้ พ.ต.ท.วิเชียร คำชุมภู, พ.ต.ท.ธนพงศ์ธัช อ่อนชูเหมรัต และ พ.ต.ต.เขมอธิษฐ์ ทองคำ สว.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท., นำหมายค้นศาลจังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 4 ต.โคกสูง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ก่อนจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) พร้อมของกลาง โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 2 เครื่อง, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) 17 เม็ด, บัตร ATM 1 ใบ และสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม

สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้สืบทราบว่ามีการเรียกเก็บค่าสมาชิกเพื่อเข้ากลุ่มดูสื่อลามกอนาจารเด็ก ภายในกลุ่มไลน์ชื่อ “คลิปแบ่งปัน” ซึ่งภายในกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 500 ราย จึงให้สายลับแฝงตัวเข้ากลุ่มไลน์ ซึ่งเป็นกลุ่มสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อคุยถึงรายละเอียดการเข้ากลุ่มลับ เมื่อสายลับทักไป จะมีการส่งตัวอย่างสื่อลามกอนาจารเด็กและข้อความปรากฏวิธีการชำระเงิน และกฎของกลุ่ม เมื่อชำระเงินจำนวน 200 บาท เข้าบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ทของผู้ต้องหา

ต่อมาเมื่อสายลับเข้ากลุ่มไลน์ดังกล่าว พบมีการส่งสื่อลามกอนาจารเด็กในกลุ่มจำนวนมาก มีสมาชิกในกลุ่มประมาณ 500 คน มีการทิ้งคลิปลามากไว้ในโน้ตของกลุ่มไลน์ด้วย เมื่อสายลับได้แฝงตัวอยู่ในกลุ่มดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แอดมินได้ลบบัญชีไลน์ของสายลับออกจากกลุ่ม จากนั้นก็ได้มีการเชิญเข้ากลุ่มใหม่อีกครั้ง พบว่ามีการส่งสื่อลามกอนาจารเด็กในกลุ่มไลน์จำนวนมาก มีทั้งเด็กไทยและต่างประเทศ โดยแอดมินกลุ่มไลน์ดังกล่าวคือ นายเอ จึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบ

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำมานานกว่าสามปีแล้ว มีการนำคลิปลามกอนาจารมาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ก่อนนำมาเผยแพร่ในกลุ่ม เพื่อเก็บค่าสมาชิกในราคา 200-900 บาท เงินที่ได้ก็จะนำไปใช้จ่ายส่วนตัว สอดรับกับผลตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์ พบสื่อลามกอนาจารจำนวนมากกว่า 5 หมื่นคลิป จึงแจ้งข้อหา ครอบครองและส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อความประสงค์แห่งการค้า, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.