เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลได้แสดงความคิดเห็นในหลากหลายประเด็น กรณีครูสาวโรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อ.บุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “อำลากระโปรงอย่างเป็นทางการ หลีกทางให้กางเกงเป๋าตุงหน่อยครับ #โรงเรียนแห่งความเท่าเทียม “ขอชื่นชมในผู้บริหารค่ะ สิทธิขั้นพื้นฐานที่ได้รับจากโรงเรียน” ขอบคุณ ผอ. ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องเพศสภาพ ไม่ว่าจะทำงานหรือการแต่งกายอะไร ขอให้เป็นเพศสภาพของบุคคลนั้นในยุคที่มีความเท่าเทียมทางเพศ” ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างแสดงความชื่นชมวิสัยทัศน์และทัศนคติของทางโรงเรียน และ ผอ.โรงเรียน เป็นอย่างมาก ต่อมา คุณครูปทุมพร จันทรักษ์ ยังได้โพสต์ภาพและข้อความอีกว่า ประเดิมใส่กางเกงวันแรกที่เป็นทางการอย่างเต็มภาคภูมิ กลิ่นความเป็นตัวของตัวเองนี่มันหอมจริงๆ เลย #บุญบั้งไฟศรีบุญเรือง #PatumpornJantarak #ปทุมพรจันทรักษ์ #ศรีบุญเรืองวิทยาคาร #FeedForFuture

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พบกับ น.ส.ปทุมพร จันทรักษ์ คุณครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ผู้ทำบันทึกข้อความเป็นหนังสือภายในถึง นายณัฏฐ์ชัย เบี้ยวเก็บ ผอ.โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร ว่า เนื่องจากตนเองมีเพศสภาพที่ไม่ตรงตามเพศกำเนิด เพื่อให้การแต่งกายตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศและเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงาน จึงมีความประสงค์ขออนุญาตแต่งกายตามเพศสภาพด้วยชุดทำงานชายและสามารถไว้ผมสั้นได้

น.ส.ปทุมพร เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้แต่งตัวตามที่ตัวเองต้องการ ซึ่งตั้งแต่เช้าเดินเข้าประตูโรงเรียนมา เพื่อนครู และนักเรียน ต่างก็ทักทายแสดงความยินดี ก่อนหน้านี้เราไม่เคยคิดว่าจะได้แต่งกายตามเพศสภาพ และก่อนที่จะทำบันทึกเสนอขออนุญาตจากทางผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ได้มาปรึกษาหารือกันก่อน พอทาง ผอ. ให้ทำบันทึกขอ ก็เลยรีบทำ และเมื่อเห็นคำว่า “อนุญาต” รู้สึกดีใจมาก จากนั้นก็ได้มีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ก็ไม่คิดว่าจะมีคนแชร์และเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

“ดีใจกับการรอคอย ที่มีวันนี้ก็นานพอสมควร สำหรับเรื่องนี้ไม่คิดเลยว่าจะเป็นความจริงหรือความเป็นไปได้เป็นศูนย์เลย แต่ก่อนเราก็เป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่ว่าเรื่องการแต่งกายก็ยังเป็นข้อจำกัดในการใช้ชีวิตของเราอยู่ แต่พอยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนไป และก็โชคดีที่ได้มี ผอ. ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ซึ่งมองเห็นทุกเพศสภาพที่มีความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นคุณครูหรือนักเรียน ผอ. เปิดโอกาสทางเพศให้กับทุกคน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่จะขออนุญาต ก็คิดหนักพอสมควรว่าจะขออนุญาตดีไหม” คุณครูสาวหล่อ กล่าว

คุณครูสาวหล่อ ยังกล่าวต่อว่า เพราะมีความกังวลและข้อจำกัดหลายๆ อย่างในเรื่องเพศสภาพ และในเดือนนี้เป็นเดือนรณรงค์ในเรื่องของ Pride Month ด้วย เลยถือว่าเป็นเดือนที่ดี และเหมาะสมแล้วละที่เราจะขออนุญาต และ ผอ. พูดเสมอว่า การทำงานขอให้คุณครูมีความสุขกับการทำงาน แค่จุดเริ่มต้นมันดี งานก็จะสำเร็จ คำแรกที่รู้สึกประทับใจในวันนั้น คือ ผอ. พูดว่า ”ทำไมถึงเพิ่งมาขอ” ซึ่งเป็นอะไรที่ประทับใจมาก สำหรับคำพูดที่ประโยคสั้นๆ นี้ ซึ่งมันเป็นการปลดล็อกในใจเรา จากเรื่องที่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่ามันเป็นไปได้แล้ว

ด้านนายณัฏฐ์ชัย เบี้ยวเก็บ ผอ.โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาคุณครูปทุมพร เป็นคนที่มีความตั้งใจและแต่งกายที่เหมาะสมมาโดยตลอด ซึ่งในโลกยุคปัจจุบันนี้ ความยอมรับทางเพศมันเปลี่ยนไปแล้ว จะเห็นว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่เรียกว่า Pride Month ของเพศวิถีต่างๆ ที่อาจจะต้องการให้เป็นตัวตนที่แท้จริง หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ

นายณัฏฐ์ชัย เปิดเผยต่อว่า ผมได้ประชุมคุณครูและพูดคุยร่วมกันการสร้างองค์กรแห่งมีความสุข อยากให้ทุกคนมาทำงานแบบมีความสุข เป็นองค์กรที่แฮปปี้เวิร์กเพลส พอคุยกันเสร็จ คุณครูก็เลยมาคุยว่า ขออนุญาตแต่งกายตามเพศสภาพ ผมก็อนุญาตทันทีเลย เพื่อความสุขของคุณครู และให้คุณครูทำบันทึกหนังสือเพื่อเป็นหลักฐาน

นายณัฏฐ์ชัย เปิดเผยต่ออีกว่า ส่วนระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ไม่ได้บอกรายละเอียดไว้มาก เพียงแต่ว่าวิธีการและความประพฤติที่เหมาะสมในความเป็นครู ซึ่งต้องทำหน้าที่ดูแลนักเรียน ถ้าครูแต่งกายเหมาะสม ใช้ความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนให้เด็กมีคุณภาพจริงๆ ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งในวันนี้ก็ได้พบกับ คุณครูปทุมพร ตั้งแต่เช้าแล้ว รู้สึกว่าเขามีความสุขที่ได้แต่งกายตามที่เขาอยากจะแต่งมานานแล้ว ส่วนเพื่อนครูเห็นก็ดีใจ แสดงความยินดีกับคุณครูที่เขาได้เป็นตัวตนที่แท้จริง

“ซึ่งเราอยากให้บุคลากรมีความสุข แม้แต่เด็กนักเรียน ที่อยากจะแต่งตัวตามเพศสภาพ ซึ่งก็มีนักเรียนที่โรงเรียนนี้ ได้ขอแต่งกายตามเพศสภาพอยู่ 3 คน แต่ก่อนจะอนุญาต ก็ได้เชิญผู้ปกครองมาทำความเข้าใจกันก่อน คุยเป็นข้อตกลงว่า พฤติกรรมของลูกเป็นอย่างนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองยอมรับได้ไหม ถ้ายอมรับได้ทางโรงเรียนก็ยอมรับได้ ซึ่งก็มีด้วยทั้งหมด 3 คน ที่ชายแต่งกายเป็นหญิง ส่วนหญิงที่มีใจเป็นชาย จะขอเพียงตัดผมสั้นเท่านั้น” ผอ.โรงเรียนศรีบุญเรืองวิทยาคาร กล่าว.