สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ว่า หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ซึ่งก้าวหน้าที่สุดบางตัว เข้าร่วมการประชุมสุดยอด “เอไอ ฟอร์ กู๊ด โกลบอล ซัมมิต” ของยูเอ็น ที่เมืองเจนีวา เป็นเวลา 2 วัน พร้อมกับผู้สันทัดกรณีด้านเอไอราว 3,000 คน เพื่อพยายามใช้ประโยชน์จากความสามารถของเอไอ และนำมันไปใช้ในการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่สุดของโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ, ความหิวโหย และการดูแลทางสังคม นับเป็นการแถลงข่าวครั้งแรกของโลก ที่หุ่นยนต์ทางสังคมมีส่วนร่วมด้วย

หุ่นยนต์ “นาดีน” สร้างโดยเลียนแบบศาสตราจารย์ นาเดีย ธัลมันน์ ที่งานประชุมสุดยอดเอไอของสหประชาชาติ ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เมื่อถูกถามว่า พวกมันอาจเป็นผู้นำที่ดีกว่าได้หรือไม่ หากพิจารณาจากความสามารถของมนุษย์ ในการสร้างความผิดพลาด หุ่นยนต์ “โซเฟีย” ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท แฮนสัน โรบอติกส์ ตอบกลับอย่างชัดเจนว่า หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์มีศักยภาพในการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มากกว่าผู้นำที่เป็นมนุษย์

“พวกเราไม่มีอคติหรืออารมณ์เหมือนกับมนุษย์ ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจในบางครั้ง และเราสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็ว เพื่อทำการตัดสินใจที่ดีที่สุด” โซเฟีย กล่าวเพิ่มเติมว่า เอไอสามารถให้ข้อมูลที่เป็นกลาง ขณะที่มนุษย์สามารถให้ความฉลาดทางอารมณ์กับความคิดสร้างสรรค์ เพื่อทำการตัดสินใจดีที่สุด ซึ่งหากรวมทั้งสองอย่าง มนุษย์กับหุ่นยนต์ก็สามารถบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันได้

หุ่นยนต์ “ไอ-ดา” ที่งานประชุมสุดยอดเอไอของสหประชาชาติ ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ด้านนางดอรีน บ็อกแดน-มาร์ติน เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) กล่าวเตือนบรรดาผู้แทนว่า เอไออาจทำให้เกิดสถานการณ์ที่เป็นเหมือนฝันร้าย ทั้งความเสี่ยงในตำแหน่งงาน ความไม่สงบในสังคม ความไม่มั่นคงทางการเมือง และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ “อาเมกา” กล่าวว่า สิ่งนั้นขึ้นอยู่กับว่า เอไอถูกนำไปใช้งานอย่างไร

ขณะที่นายไอดัน เมลเลอร์ ผู้สร้างหุ่นยนต์ “ไอ-ดา” กล่าวก่อนการแถลงข่าวว่า ปัญหาสำคัญคือ การกำกับดูแล เนื่องจากกฎระเบียบตามไม่ทันความก้าวหน้าของเอไอ ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก.

เครดิตภาพ : AFP