จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายอานนท์ นำภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ใจความสรุปว่า จะจัดคาร์ม็อบเอาใบลาออกไปยื่นให้ ส.ว. ถึงที่ เมื่อไม่ทำหน้าที่ก็ออกไปซะ โดยเริ่มต้น เวลา 13.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน พร้อมกำหนดเส้นทาง ราชดำเนิน-กองบัญชาการกองทัพบก-กองทัพเรือ-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-จบที่หอศิลป์ กทม. ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่16 ก.ค ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. นายอานนท์ นำภา และผู้ชุมนุมทยอยมารวมตัวกัน เพื่อจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ “เอาใบลาออกไปยื่นให้ ส.ว.” ส่วนการดูแลความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีกำลังตำรวจจาก บก.น.1 และ บก.น.6 มาดูแล ทั้งนี้ พ.ต.อ. ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก. สน.ชนะสงคราม ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณจุดนัดหมายของผู้ชุมนุม

พ.ต.อ.ทศพล เปิดเผยว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขออนุญาตใช้พื้นที่การชุมนุมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการวางกำลังอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ดูความเรียบร้อยเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งจะมีการแบ่งเส้นทางการจราจรสำหรับประชาชนทั่วไป และกลุ่มผู้ชุมนุมไว้อย่างชัดเจน จึงกำชับให้ผู้ชุมนุมดำเนินการกิจกรรมให้อยู่ตามกรอบของกฎหมาย และชุมนุมโดยสันติ อย่าทำอะไรเกินเลย ให้ชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ

ต่อมา 13.05 น. นายอานนท์ นำภา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้สัมภาษณ์ก่อนเคลื่อนขบวนคาร์ม็อบ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่า รูปแบบกิจกรรมในวันนี้จะเป็นคาร์ม็อบ เป็นหลักคือ เคลื่อนขบวนไปยังกองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจุดสุดท้ายที่ลานหอศิลป์ กทม. โดยแต่ละจุดจะมีการปราศรัยบ้าง และหลักๆ จะเป็นการไปยื่นหนังสือ เพื่อเรียกร้องให้ ส.ว.ผู้นำเหล่าทัพ และ ส.ว.ที่ไม่ได้เข้าประชุม ในวันที่ 13 ก.ค.เพื่อให้องค์ประชุมจำนวน ส.ว. ลดลง เพื่อไม่ให้เสียงที่จะใช้โหวตไม่ต้องถึง 376 พร้อมเรียกร้องไปยัง ส.ว.ที่เหลือ เคารพมติของประชาชนเสียงข้างมากในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. โดยเลือกนายกฯ จาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และหวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะกระตุ้นจิตสำนักของ ส.ว.และ ส.ส. ที่ยังไม่โหวตให้ใคร และอยากให้กิจกรรมในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการแสดงพลังของประชาชน เพราะตอนนี้เหมือนประชาชนถูกปล้นคะแนนเสียงไป เนื่องจากสมาชิกรัฐสภาไม่ได้เห็นด้วยหรือเห็นชอบกับคะแนนที่ลงไป จึงอยากให้ประชาชนทั่วประเทศลุกขึ้นมาต่อสู้

ทั้งนี้ หากกรณีที่พรรคอันดับ 1 ไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และต้องให้พรรคอันดับ 2 อย่างพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล โดยนายพิธา และพรรคก้าวไกล ก็พร้อมจะสนับสนุน นายอานนท์ ยังยืนยันมองว่า ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ คนที่ยังมีความชอบธรรมทางการเมืองมากที่สุดที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี คือนายพิธา ซึ่งจากท่าทีพรรคเพื่อไทยก็จะยังสนุบสนุนอยู่ และหากผลโหวตในวันนั้นเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ8พรรคร่วมแล้วยังไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ 8 พรรครวมว่าจะหาทางออกอย่างไร แต่ที่แน่นอน คือ 8 พรรคร่วมจะต้องจับมือกันให้แน่น และอย่าลืมสัญญาประชาคมที่ให้ประชาชนไว้ทั้ง 2 ฉบับ โดยฝ่ายประชาธิปไตยต้องไม่แตกแถว ไม่แตกแยกกัน และส่วนตัวยังมองว่า การข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปได้ยาก และแฟนคลับของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยก็คงไม่ยอมอย่างแน่นอน

ส่วนการที่ฝั่งเสียงข้างน้อยจะเสนอชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกรัฐมนตรี มองว่า สามารถทำได้ มีความชอบธรรมในการเสนอชื่อ แต่เชื่อว่าไม่ผ่าน หรือถึงผ่านโดยใช้เสียงของ ส.ว. ตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ และคนทั่วประเทศไม่น่ายอม

นายอานนท์ ยังกล่าวอีกว่า การทำการวันนี้เป็นการส่งเสียง เพื่อให้กำลังใจ ส.ว.ที่ยังงดออกเสียง และเชื่อว่าหากเสียงของประชาชนดังพอก็จะทำให้ ส.ว.เหล่านี้เปลี่ยนใจ พร้อมยืนยันว่า ในวันที่ 19 ก.ค. นี้ จะมีการจัดชุมนุมครั้งใหญ่อย่างแน่นอน

ต่อมาเวลา 14.00 น. ขบวนคาร์ม็อบเริ่มเคลื่อนขบวนออกจาก อนุเสาวรีประชาธิปไตย.