ประสบความสำเร็จในสนามการเมืองเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างงดงาม แทบจะเรียกว่าถนนสายการเมืองโรยด้วยกลีบกุหลาบ สำหรับ “ส.ส.เดือน” มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 เคยเป็น ส.จ.นครพนม 2 สมัย, เป็นรองนายก อบจ.นครพนม 2 สมัย และนายก อบจ.นครพนม 1 สมัย (พ.ศ. 2547 – 2551) พอถึงปี 2554 ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครพนม เป็นครั้งแรก สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3 สมัยติดต่อกัน นับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2554, ปี 2562 และล่าสุดปี 2566 โดยทุกครั้งที่ลงสมัคร ส.ส.สังกัด “พรรคเพื่อไทย” ตลอด

ส.ส.เดือน เล่าให้ฟังว่า เป็นบุตรบุญธรรมของนายประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา และพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ และอดีต ส.ส.นครพนม หลายสมัย ปัจจุบันอายุ 57 ปี จบชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนสุนทรวิจิตร อ.เมือง จ.นครพนม, จบชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนนครพนมวิทยาคม อ.เมือง จ.นครพนม จากนั้นศึกษาต่อวิทยาลัยนานาชาติเซ็นต์เทเรซ่า จ.นครนายก, ปริญญาตรีศิลปะศาสตร์บัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม., ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม., ปริญญาเอก ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก กรุงเทพฯ


“จากการสั่งสมประสบการณ์ทางการเมืองมาหลายปี ทั้งในบทบาท ส.จ., รองนายก อบจ. และนายกอบจ. ได้รู้ เห็น สัมผัส ทุกปัญหา ทุกความต้องการ ในท้องถิ่น พบว่ามีหลายอย่างต้องอาศัยพลังทางการเมืองระดับชาติ ถึงจะขับเคลื่อนและเดินหน้าต่อไปได้ ด้วยมุ่งหวัง นำความอยู่ดี มีสุข มาสู่พี่น้องประชาชน ให้ได้รับการบริการจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเท่าเทียม จึงตัดสินใจขยับขึ้นมาสู่ถนนการเมืองในระดับที่สูงขึ้น โดยสมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.นครพนม ในเขตเลือกตั้งที่ 2 สังกัดพรรคเพื่อไทย”

ส.ส.เดือน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการหาเสียงได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนอย่างดี เนื่องจากมีฐานเสียงที่เหนียวแน่นมาตั้งแต่เป็น ส.จ.และนายก อบจ.นครพนม มานานหลายปี ขณะที่พี่น้องประชาชนก็ให้การสนับสนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง กระทั่งได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ติดต่อกัน 2 สมัยโดยช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ปฏิบัติหน้าที่โฆษกคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร, โฆษกคณะกรรมาธิการ พุทธศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร, เลขานุการคณะกรรมาธิการ การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร, รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, เลขานุการ วิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร และยังเป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดนครพนม (กพสจ.)


“อดีตนายกฯทักษิณ และอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือนักการเมืองที่เดือนยึดถือเป็นไอดอล การเมืองวันนี้ต้องก้าวทันโลก ทันสมัยกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของวิถีชีวิตประชาชน กับการคาดหวังที่ประชาชนเลือกนักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนยังคงยึดแนวการเลือกนักการเมืองที่ยึดถืออุดมการณ์ประชาธิปไตย โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเมืองในเชิงอุดมการณ์ ผสมผสานกับการเมืองในเชิงนโยบาย ซึ่งประชาชนคาดหวังจากนโยบายของพรรค ที่จะทำให้วิถีชีวิตของพวกเขาดีขึ้น การเมืองที่ดีควรเป็นการเมืองที่ทำให้พี่น้องประชาชน มีส่วนร่วมในทุกๆ บริบททางสังคม และรวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย”

ส.ส.เดือน ย้ำว่า พรรคการเมืองที่นำเสนอนโยบายและทำได้จริง นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย นำโดยอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ต่อมาเป็นพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย โดยอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นโยบายทุกนโยบายที่พรรคนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนในแคมเปญการเลือกตั้ง เมื่อพรรคชนะการเลือกตั้งแล้วได้เป็นรัฐบาล นโยบายที่ได้ให้สัญญาไว้ต่อพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงลงมือทำทันที จนกระทั่งได้รับความเชื่อมั่น มาจนถึงปัจจุบันนี้

“ประชาชนอยากเห็นนักการเมืองที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ อยู่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชน มีองค์ความรู้ มีความทันสมัยทันเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันและในอนาคต รวมทั้งมีหัวใจของความเป็นประชาธิปไตย และตื่นรู้ในทางการเมืองตลอดเวลา เพราะพรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น” ส.ส.เดือน กล่าวทิ้งท้าย.

——————-

เสี่ยวหลงเปา