เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ฐานส่งกำลังทหารเรือตราด น.อ.วัชรพงษ์ ปรียานนท์ ผบ.ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด พร้อมทหารเรือ 10 นาย นำรถบัสออกมารับนักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ประจำเรือเฟอร์รี่ ของบริษัท ตราดเฟอร์รี่ จำกัด หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก ศรชล.ตราด (ศูนย์รักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลตราด) ว่า ช่วงเวลา 15.30 น. เรือ ต.263 กับ เรือ ต.82 ได้เข้าช่วยเหลือ ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยว 31 คน หลังเรือขัดข้องลอยอยู่กลางทะเลนานกว่า 7 ชั่วโมง กำลังนำทั้งหมด เดินทางมาถึงท่าเรือฐานส่งกำลังทหารเรือตราด โดยในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุบาดเจ็บที่ขา และส่วนใหญ่มีสภาพอิดโรย

นางมณฑการ ชอบชล ชาวตราด หนึ่งในผู้โดยสาร ทำงานอยู่ในอำเภอเกาะช้าง เดินทางมาพร้อมกับหลานสาว เปิดเผยว่า เป็นชาว จ.ตราด เดินทางไปทำงานที่เกาะช้าง โดยออกตั้งแต่ 07.00 น. ทุกวัน วันนี้ก่อนเกิดเหตุ เรือออกเดินทางตามปกติท่ามกลางคลื่นลมที่ไม่แรงนัก กระทั่งเวลา 08.00 น. อยู่ๆ เครื่องยนต์เรือเกิดดับโดยไม่สามารถเหตุ กระทั่งได้รับคำชี้แจงจากกัปตันเรือว่า ใบพัดเรือเฟอร์รี่ติดอวนของชาวประมง พันแน่นจนเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้

นางมณฑการ เผยอีกว่า ระหว่างนั้น ทั้งเจ้าหน้าที่ประจำเรือ และกัปตัน พยายามแก้ไขแต่ไม่สามารถแก้ไขได้ สุดท้ายต้องเรียกเรือประมงมาช่วยดึงเรือเข้ามาฝั่ง แต่เชือกที่ดึงขาด ประกอบกับคลื่นลมแรง จึงทำให้ลำบากยิ่งขึ้น กระทั่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง มีเรือประมง 2 ลำ มาช่วยแต่ก็ล่าช้า สุดท้ายทราบว่า ทหารเรือนำเรือ 2 ลำ มาช่วยลำเลียงผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวกลับมายังฝั่งที่ฐานฯ ตราดได้ ซึ่งระหว่างนั้นต้องอยู่บนเรือเฟอร์รี่ ท่ามกลางคลื่นลมแรง และเรือก็ถูกคลื่นซัดห่างออกไปเรื่อยๆ นานหลายชั่วโมง

น.อ.วัชรพงษ์ ปรียานนท์ ผบ.ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก ศรชล.ตราด จึงสั่งการให้ ผบ.เรือหลวงกันตัง นำเรือ ต.263 กับ เรือ ต.82 ที่อยู่ในหมวดเรือลาดตะเวนชายแดนภาค 1 (มชด./1) เข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารจากเรือเฟอร์รี่โดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากคลื่นลมแรง จึงทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก และได้รับแจ้งว่ามีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก จึงได้เตรียมหน่วยแพทย์ไว้เพื่อให้การช่วยเหลือ ซึ่งสามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยทุกคน และทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

ร.อ.ภานุพงษ์ เกษมพิณ ผบ.เรือหลวงกันตัง กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่า ใบพัดของเรือเฟอร์รี่มีอวนติดอยู่ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเมื่ออวนเข้าไปติดใบพัดของเรือแล้ว เรือจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ และจำเป็นต้องหยุดเครื่องยนต์ และจากสภาพที่คลื่นลมแรง ทำให้เรือหลุดลอยไป และอาจลอยเข้าไปในเขตพื้นที่ตื้นเขินได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ทาง ศรชล.ภาค 1 และ ศรชล.ตราด ได้พิจารณาเห็นว่า เรามีเรือหลวงจากหมู่เรือลาดตะเวนชายแดนอยู่ในฐานส่งกำลังทหารเรือตราดอยู่แล้ว จึงตัดสินใจนำเรือไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร เพื่อช่วยชีวิตทุกคน ซึ่งสามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย

ร.ท.จรินทร์ กลั่นมาก เจ้าหน้าที่ ศรชล.ตราด กล่าวว่า ได้รับแจ้งประสานขอความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการเรือเฟอร์รี่ประมาณ 09.00 น. ได้มีการวางแผนเพื่อให้การช่วยเหลือ แต่เนื่องจากสภาพอากาศคลื่นลมแรง จึงทำการประสานมายังฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด และหมวดเรือลาดตะเวนชายแดน (มชด./1) ซึ่งทาง มชด./1 ได้มีการประสานงานที่จะนำเรือหลวงกันตัง อกไปทำการช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเรือกันตัง เป็นเรือใหญ่กินน้ำลึก ประกอบกับเรือเฟอร์รี่ถูกลมพัดไปบริเวณชายฝั่งด้านบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ ที่อยู่ห่างจากท่าเรือเฟอร์รี่เซ็นเตอร์พอยท์ ประมาณ 5 กิโลเมตรแล้ว จึงเปลี่ยนนำเรือ ต. 2 ลำ ประกอบด้วย เรือ ต.263 และ เรือ ต.82 เข้าทำการช่วยเหลือแทน

ขณะที่ท่าเรือตราดเฟอร์รี่ ต.คลองใหญ่ อ.เเหลมงอบ จ.ตราด เจ้าหน้าที่ของบริษัท กำลังวุ่นวายกับการประสานงานกับผู้โดยสารและญาติที่มารออยู่ที่ท่าเรือเพื่อติดตามข่าวสาร พร้อมมีเจ้าหน้าที่ของ ศรชล.ตราด นำโดย น.อ.สุรศักดิ์ ภาแก้ว รอง ศรชล.ตราด และ ร.อ.นาวิน ศิลปวิทยากร เจ้าหน้าที่ยุทธการและการข่าว เดินทางมาติดตามสถานการณ์พร้อมเจ้าหน้าที่เจ้าท่าตราด ซึ่งขณะนี้เรือเฟอร์รี่ยังอยู่กลางทะเลตรงข้ามบ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ห่างจากท่าเรือระยะทางประมาณ 5-6 กม. อยู่ระหว่างวางแผนนำเรือเข้าฝั่งต่อไป