เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและอาวุธปืนทั่วประเทศ ตามยุทธการล้างบางมือปืน คืนสันติชาวประชา ปิดล้อมตรวจค้นจำนวน 1,658 จุด จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 966 ราย ยึดของกลาง อาวุธปืนเถื่อน ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 811 กระบอก ,อาวุธปืน มีหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นของบุคคลอื่น (ปืนผิดมือ) จำนวน 99 กระบอก ,เครื่องกระสุนปืน จำนวน 44,540 นัด ,วัตถุระเบิด จำนวน 2 ลูก และยาบ้าจำนวน 6,239 เม็ด

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้กำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกและความผิดอื่นที่เกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง ระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. 66 นั้น ในส่วนของมาตรการป้องกันปราบปราม ได้กำหนดให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายห้วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เน้นกลุ่มเป้าหมายความผิดเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนปืน และการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย และมอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ควบคุมการปฏิบัติในภาพรวม สั่งการให้ทุกกองบัญชาการดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดจำนวนมาก

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยังได้ส่งเป้าหมายการสืบสวนขยายผลผู้ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์ ส่งขายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกหน่วยเข้าตรวจค้นเพิ่มเติมอีกกว่า 300 จุด โดยเป้าหมายสำคัญที่น่าสนใจคือการที่ สภ.เขาพนม กก.สส.ภ.จว.กระบี่ และ บก.สส.ภ.8 ได้เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้าน นายอนุชัย (สงวนนามสกุล) หรือบูม อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน โดยมีหมายจับติดตัวจำนวน 3 หมาย หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นนั้น ผู้ต้องหารู้ตัวและได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทางด้านหลังบ้านซึ่งเป็นป่าละเมาะ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไป

ทันใดนั้นผู้ต้องหาวิ่งสวนออกมาจากที่ซ่อน และใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงตอบโต้ถูกผู้ต้องหาเสียชีวิต ตรวจสอบที่ศพพบอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ Mauser ขนาด 9 มม. ตกอยู่ข้างตัว และ พบลูกระเบิดชนิดขว้าง M 67 จำนวน 1 ลูก และ ระเบิดควันจำนวน 2 ลูก อยู่ในกระเป๋าสะพายที่ผู้ต้องหาสะพายติดตัวอยู่ พนักงานสอบสวนจึงได้ร่วมกับ พนักงานอัยการ ฝ่ายปกครอง และแพทย์ ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ และให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสถานที่เกิดเหตุไว้อีกส่วนหนึ่งแล้ว

นอกจากนี้ในส่วนพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา นายสมยศ (สงวนนามสกุล) หรือ เอ็ม อายุ 42 ปี ที่บ้านพักใน ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ในความผิดฐาน “ทำประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่งนำเข้า มีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน สำหรับการค้า , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน , มีและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนดัดแปลงแบบออโตเมติกและลูกโม่ ลำกล้องขนาด 9 มม. , .38 ละ .380 จำนวน 8 กระบอก แม็กกาซีน 17 อัน กระสุนปืนขนาดต่างๆ รวมกว่า 140 นัด ยาบ้าจำนวน 8 เม็ด และอุปกรณ์พร้อมเครื่องมือที่ใช้ผลิตหรือดัดแปลงอาวุธปืนจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้อง

“อย่างไรก็ตามทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยในห้วงที่ผ่านมามีการกระทำความผิดและใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียและความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันของหน่วยต่างๆ เพื่อบูรณาการกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนพร้อมกันทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก เชื่อมั่นว่าจะทำให้ความรุนแรงของอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมายลดลง และฝากประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชน ซึ่งหากมีเบาะแส หรือเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรม หรือเรื่องอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว.