เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ โดยระบุว่า

นักการเมืองที่จะประสบความสำเร็จได้ต้อง

“อยู่ให้เป็น”
ไม่ทำตัวให้ผู้มีอำนาจหมั่นไส้ อยู่ในจุดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ หามิตร ไม่สร้างศัตรู ไม่เป็นคนใจร้อนอีโก้สูง ไม่มองข้ามหัวพรรคพวก เมื่อเป็นลูกน้องก็ต้องเอาใจนาย เมื่อเป็นนายต้องรู้ใจคนใกล้ชิด

“เย็นให้พอ “
ยังไม่ถึงเวลาต้องไม่แสดงออกว่ากระสันอยากได้อำนาจตำแหน่ง ต้องใจเย็น มีความอดทนสูง

“รอให้ได้ “
นานเท่าไหร่ก็จะรอ รีบร้อนไปไม่ดี หากโอกาสที่ดีกว่ามาจะทำอะไรไม่ได้ สายไปเสียแล้ว จึงต้องรอจังหวะให้ดี

นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

อยู่เป็น แอบอิงผู้มีอำนาจ

เย็นพอ ไม่ผลีผลาม

รอได้ ท้ายสุดจังหวะเทียบเชิญให้ร่วมรัฐบาลก็มาถึง

หลังเลือกตั้งเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล หมอชลน่านจำใจยอมกลืนเลือดมานั่งเจรจาต่อรองกับนายอนุทิน

เขาถึงบอกว่า “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวรในการเมือง”

นักการเมืองจะต้องพูดอะไรออกได้สองทาง ไม่ปิดทางเดินตัวเอง

เมื่อวันหนึ่งเพื่อไทยบอกก้าวไกลว่า “จะรักกันตลอดไป”

แต่ท้ายสุดแล้วเห็นท่าจะไปไม่รอด ก็ต้องทิ้งเพื่อนไว้เอาตัวเองรอด

เพื่อไทยกับภูมิใจไทยนั้นมีประวัติยาวนาน อนุทินเคยอยู่พรรคไทยรักไทยมาก่อน ที่ต่อมาเปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทย

และบุคคลสำคัญ คือ นายเนวิน ที่เอ่ยคำว่า “มันจบแล้วครับนาย” เมื่อถึงเวลาแยกทางกับทักษิณ

ความแค้นมีแน่ แต่เมื่อถึงเวลาสานประโยชน์ นักการเมืองจำต้องลืมเรื่องในอดีต และจับมือกันไปแสดงบทบาทให้ประชาชนเห็น

นี่คือละครการเมืองโรงใหญ่ ที่ประชาชนเป็นคนดู และนักการเมืองมาแสดงละครให้เราดู

คิดเสียว่ามันคือละครฉากหนึ่งเท่านั้นเอง อย่าไปจริงจังเชื่อถืออะไรเลยครับ

เหมือนเราดู “ละครลิง” อย่าไปคิดว่าลิงแสดงเหมือนคนเลยดูเป็นคน

ลิงยังไงก็คือลิง แม้ว่าจะแสดงเหมือนยังไง ความจริงก็คือลิง ไม่ใช่คน