เมื่อวันที่ 23 ก.ค. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ การเมืองฉาก 2 เพื่อไทยรวบขั้วเก่า โดยระบุว่า

1.หลังจากก้าวไกลส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลตามฉันทามติของประชาชนตามแถลงการณ์ร่วม 8 พรรค ด้านหนึ่งก็เกิดกระแสถล่มพรรคเพื่อไทยและชินวัตรเหมือนก่อนเลือกตั้ง อีกด้านหนึ่งเพื่อไทยก็ได้เชิญพรรคการเมืองขั้วเก่ามาหารือเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล

2.การหารือกับพรรคขั้วเก่าเมื่อ 22 ก.ค. ปรากฏว่าพรรคที่รับเชิญมาทุกพรรคพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องไม่มีพรรคก้าวไกล ประหนึ่งยืมปากพรรคขั้วเก่าไล่ก้าวไกลให้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค

แนวข่าววานนี้มีแนวโน้มว่า “จะมีการสลับขั้วตั้งรัฐบาล” เข้าสู่การเมืองฉาก 3 โดยมีก้าวไกล ประชาธิปัตย์และไทยสร้างไทย เป็นฝ่ายค้าน!!!!

3.ท่าทีของก้าวไกลจากเวทีปราศรัยภาคตะวันออกเมื่อวานนี้สรุปได้ชัดเจนว่า “ก้าวไกลยังคงยึดมั่นในแถลงการณ์ร่วม 8 พรรค”

จึงน่าจะไม่ถอนตัวออกจากแถลงการณ์ร่วมนั้น “หากเพื่อไทยจะฉีกแถลงการณ์ร่วม” หรือตะเพิดก้าวไกลไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับขั้วเก่าก็เป็นความรับผิดชอบของเพื่อไทยฝ่ายเดียว!!!!

นายพิธาได้ประกาศแนวทางการเมืองจากนี้ไปว่า “เมื่อไม่ได้อยู่ในสภาก็จะอยู่กับประชาชน” จะส่งผลให้การเมืองนับแต่นี้ไปมีสภาพเป็น 2 แนวรบคือในสภาและนอกสภา

4.แนวโน้มส่อว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในวันที่ 27 นี้ เพราะพิษเศรษฐกิจกำลังกำเริบหนักหากล่าช้าต่อไปประเทศไทยก็จะทนต่อบาดแผลนี้ไม่ได้

และทันทีที่พรรคเพื่อไทยได้รับความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ถ้าหากเป็นคุณเศรษฐาก็ต้องจับตาที่ตั้งเงื่อนไขไว้ทั้ง 3 ประการคือ

ไม่ตั้งรัฐมนตรีจากรวมไทยสร้างชาติและประชาธิปัตย์

จะคัดเลือกรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเอง ที่สำคัญคือรัฐมนตรี คมนาคมและสาธารณสุข

จะต้องมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่แน่ว่าจะรักษาคำพูดนี้ไว้ได้หรือไม่

แต่เมื่อถึงเวลานั้นจะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการกราบบังคมทูลเสนอแต่งตั้งรัฐมนตรี

จะต้องจับตาดูว่าถ้าพรรคพลังประชารัฐและรวมทัังสร้างชาติร่วมรัฐบาล คุณหมอชลน่าจะลาออกจากหัวพรรคตามทีสัญญาไว้กับประชาชนหรือไม่?