จากกรณีหนุ่มใหญ่ อายุ 61 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ ได้ร้องสื่อว่ามีคนร้ายขึ้นบ้านถึง 2 วันติด โดยที่คนร้ายได้ทรัพย์สินรวมเป็นเงินประมาณ 2,265,000 บาท โดยเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงกลางดึก คืน วันที่ 19 ต่อเนื่อง 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังทราบว่าบ้านโดนคนร้ายขึ้น จึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.ค. พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว ประกอบด้วย 1.นายอนันยา หรือแอป อุปละ อายุ 25 ปี 2.นายสมบัติ หรือบัติ การสมเพียร อายุ 55 ปี และ3.นายวันชัย หรือชัย สมบุญ อายุ 59 ปี ได้ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยมิตรไมตรี 12 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลาง หมวกแก๊บ สีเขียวดำ ปรากฏอักษร “วุฒิสภา 51” จำนวน 1 ใบ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ที่ใช้ในการก่อเหตุ

พ.ต.อ.นพดล เปิดเผยว่า ทางกลุ่มผู้ต้องหารับสารภาพทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องการก่อเหตุ โดยผู้ต้องหามีการดูลาดเลาในช่วงตอนเย็น โดยจะเลือกเฉพาะบ้านเก่า หรือ ไม่มีคนอยู่ ก่อนอาศัยในช่วงฝนตกช่วงเวลาดึกเข้าไปก่อเหตุโจรกรรมทรัพย์สินภายในบ้าน ส่วนใหญ่ทรัพย์สินที่จะโจรกรรม พระเก่า ของเก่า ประตูเก่า และทรัพย์สินมีค่า แล้วจะนำไปขายในตลาดมืด ส่วนประตูที่เห็นจำนวนกว่า 10 บาน ผู้ต้องหาได้รวมกันขายได้เงินมาประมาณ 5 พันบาท โดยพบว่าผู้ก่อเหตุลงมือก่อเหตุในพื้นที่ จำนวน 5 ครั้ง และ มีบ้านผู้มีชื่อเสียงรวมอยู่ด้วย เป็นบ้านข้าราชการชั้นสูง ส่วนร้านรับชื้อของเก่านั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประชาสัมพันธ์ ให้จดบันทึกของที่อย่างที่รับชื้อมา

ด้านนายอนันยา หนึ่งในผู้ต้องหา ยอมรับว่า ตนเองก่อเหตุมาแล้วกว่า 10 ครั้ง โดยที่จะเข้าบ้านเก่า หรือ บ้านที่ไม่มีคนอยู่ เพราะอาจมีของเก่าอยู่ภายในบ้าน ซึ่งรวมถึงประตูบ้านไม้เก่า ก็งัดไปขาย โดยจะไปขายตามร้าน และพรรคพวกที่รู้จัก

เบื้องต้นทั้งหมดได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือ โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยาพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับมีบ้านผู้เสียหายที่มีชื่อเสียงที่เป็นข้าราชการระดับสูงนั้น เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชื่อดังรวมอยู่ด้วย.