เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พ.ต.ท.อนุวรรตน์ รักษายศ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 16 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชุติพล เขมานุวงศ์ ผกก.สภ.ท่าชนะ, พ.ต.ท.วัชระ เผือกจันทร์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.สมพงษ์ ณ สงขลา รอง ผกก.สอบสวน, พ.ต.ท.ไพรินทร์ รักบำรุง สวป., พ.ต.ท.กรกฤช สัตตรัตน์ สว.ส. เจ้าหน้าที่ศพฐ.8 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกุศลศรัทธา อ.ท่าชนะ ที่เกิดเหตุอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันและสวนทุเรียนบนเขา เจ้าหน้าที่ต้องเดินทางด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้าไปใช้เวลาเดินทางนานร่วม 2 ชั่วโมง เมื่อไปถึงพบบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านไม้แบบยกพื้นสูง ประตูบ้านถูกทุบพังเสียหาย ภายในบ้านพบศพนายอรรณพ ณ ศรีสุข อายุ 38 ปี ชาว จ.กระบี่ สภาพนุ่งกางเกงยีนขายาว เสื้อแขนยาวสีดำ ใส่หัวคาดไฟฉายส่องสว่างที่ศีรษะ และสะพายเป้ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่หน้าอกซ้าย ส่วนข้างศพพบปืนพกสั้นขนาด .357 นกปืนถูกง้างค้างไว้ตกอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน นางศิราภรณ์ พริมด้วง อายุ 47 ปี เจ้าบ้าน พี่สาวผู้ตาย เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือนายบุญธรรม พริมด้วง อายุ 47 ปี สามีตนเอง ส่วนผู้ตายคือน้องชายตนเองเหมือนกันเคยมีปัญหาขัดแย้งกับตนและสามีมาก่อน ก่อนเกิดเหตุกลางดึกที่ผ่านมา ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมาจาก จ.กระบี่ พร้อมอาวุธปืนพกสั้น เมื่อมาถึงได้ใช้จอบทุบทำลายประตูบ้านตนพังเสียหาย แม้จะพยายามห้ามปรามก็ไม่ยอมฟัง พร้อมส่งเสียงตะโกนว่าจะยิงให้ตายให้หมด สามีตนเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบปืนลูกซองที่มีไว้ในบ้านออกมา แล้วบอกให้ตนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แล้วเดินไปหน้าบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายงัดประตูเข้ามาพอดี ในสภาพถือปืนลักษณะพร้อมยิง สามีตนจึงยิงสวนออกไป 1 นัด ถูกผู้ตายล้มลงเสียชีวิตทันที จึงรีบแจ้งตำรวจ ส่วนสามีตกใจหลบหนีไป

ต่อมา นายบุญธรรม ผู้ก่อเหตุ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือและปล่อยปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากไม่มีเจตนาหลบหนี และพฤติการณ์แห่งการก่อคดีเนื่องจากเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะผู้ตาย บุกรุกเข้ามาในเคหสถานในเวลากลางคืน พร้อมอาวุธปืน จะมาก่อเหตุทำร้ายคนในบ้าน เป็นภัยอันตรายที่ใกล้จะถึงตัวแล้วจึงยิงป้องกันตัวเองและภรรยา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เมื่อปีที่แล้ว นายอรรณพ ผู้เสียชีวิต เข้าไปทำลายต้นทุเรียนของพี่สาวและพี่เขย อ้างว่าไม่พอใจที่ นายอรรณพ ไปลวนลามภรรยา ทำให้ต้นทุเรียนเสียหายประมาณ 3 แสนบาท ทำให้พี่สาวไม่พอใจแจ้งให้เจ้าหน้าที่ระงับเหตุ จนนายอรรณพ ถูกดำเนินคดีในข้อหาทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น จากนั้นกลับไปอยู่บ้านที่ จ.กระบี่ กระทั่งมาก่อเหตุและถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว