เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ที่ทำเอาเหล่าผู้พบเห็นโศกเศร้าบีบหัวใจสุด ๆ หลังมีคุณแม่รายหนึ่ง ออกมาโพสต์คลิปเล่าเรื่องราวที่ทำให้เธอเหมือนคนตายทั้งเป็นในเมืองดูไบ
ซึ่งเธอแต่งงานกับสามีชาวดูไบ ก่อนทั้งคู่จะสร้างสักขีพยานรัก หนูน้อยตากลมแก้มป่อง แต่ทว่าเส้นทางครอบครัวที่แสนอบอุ่นก็ไม่เป็นไปตามนิยายรัก เพราะเธอต้องพบกับข่าวสุดเศร้า คือลูกชายวัยเพียง 10 เดือน เสียชีวิตลงอย่างปริศนา
โดยโพสต์วิดีโอที่เธอเล่นกับลูก พร้อมระบุข้อความแปลไทยว่า “สาเหตุที่แท้จริงคืออะไร? โลกนี้ใจร้ายกับลูกชายวัย 10 เดือนของฉัน” นอกจากนี้คุณแม่ก็เล่าเพิ่มเติมว่า “ในใบเขียนว่า ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต น้องเสียตอนที่น้องอยู่กับพ่อ แพทย์ไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ในคืนที่น้องเสีย เราไม่ได้อยู่ เพราะเขาทำร้ายร่างกายเรา และขู่ว่าถ้ากลับไปห้องจะทำร้ายเราอีก น้องเสียที่ฟูไจราห์ และในคืนนั้นเรากลับไปดูไบคนเดียว เช้ามาเราได้ยินโทรศัพท์ที่พ่อของน้องโทรฯ ไปหาเพื่อนเราว่า ให้รีบกลับไปที่โรงแรม เรากลับไปถึง เราเห็นแค่ร่างน้อง”
ทั้งนี้สาวคนดังกล่าวยังแนบวิดีโอที่เล่นกับน้องเพิ่มเติมและบอกว่า “น้องไม่ได้ป่วยและไม่ได้เป็นอะไรค่ะ น้องปกติทุกอย่าง” พร้อมแนบร่างน้องตอนที่คุณแม่ไปพบและเล่าว่า “อันนี้คือร่างน้องในวันนั้น มีรอยช้ำที่อก แต่มันให้การว่า มันทำพีซีอาร์และบวกกับอาจจะตกใจเลยทำให้ลงน้ำหนักมือผิด ส่วนตรงแขนเราไม่ทราบ”
โดยต่อมาเธอเล่าว่า เพื่อนส่งหลักฐานชิ้นหนึ่งให้ ซึ่งเชื่อว่าคืนนั้นต้องมีอะไรเกิดขึ้น แต่การจะรื้อคดีที่นี่จำเป็นต้องมีทนาย และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 2 แสน และยืนยันว่าตัวเธอเองไม่ได้มีเงินเก็บ พอหลังจากฝังลูก 1 วัน สามีก็มาขอหย่า พร้อมบอกว่าไม่ให้บอกแม่และพี่สาวของสามีเรื่องที่ลูกของเราเสียชีวิต ซึ่งทำให้รู้สึกสงสัยว่าจะปิดเรื่องนี้เพื่ออะไร แต่สามีบอกว่าแม่เป็นโรคหัวใจและมาขอร้องอย่าไปยุ่งหรือเล่าอะไรกับเพื่อนทุกคนของเขา แต่ก็มารู้ทีหลังว่าอดีตสามีไปเล่ากับทุกคนว่า เธอเป็นฝ่ายขอหย่า
นอกจากนี้ สาวคนดังกล่าวก็เล่าว่า สามีอยากหย่ากับเธอตั้งแต่ก่อนหน้านี้หลายเดือนแล้ว แต่เธอยื้อไว้เพราะสงสารลูก สุดท้ายพอเกิดเรื่องนี้ขึ้น รู้สึกช็อกและรู้สึกว่าลูกไม่ได้รับความยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตมากมายหลั่งไหลเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แนะนำว่า ให้คุณแม่ต้องสู้และดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด พร้อมพากันส่งกำลังใจในการสูญเสียครั้งนี้ด้วย…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @sureeratlaburt
