เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงดึกวานนี้ (28 ก.ค.) ร.ต.อ.เอกลักษณ์ ศักดิ์ชัยนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถ จยย. เสียหลักพุ่งชนเสาป้ายจราจรริมถนน มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย เหตุเกิดบนถนนศรีตรัง 1 สาย ตง.5036 เลี่ยงเมืองตรัง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของทางหลวงชนบท หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย หน่วยกู้ชีพ รพ.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง

ที่เกิดเหตุพบไฟส่องสว่างริมถนนดับสนิท บนฟุตปาธพบร่างของ น.ส.เยาวภา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาว ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือด สวมเสื้อแจ๊กเกตสีชมพู นุ่งกางเกงยีนสีดำ สภาพท่อนบนนอนบนฟุตปาธ ท่อนล่างพาดห้อยลงบนถนน แพทย์ทำการชันสูตรเบื้องต้น พบบาดแผลขนาดใหญ่ที่ศีรษะ กะโหลกแตก มันสมองไหล ท่ามกลางบรรดาญาติที่น้องที่มาดูร่าง ร้องไห้ระงม ห่างออกไปจากศพ ประมาณ 40 เมตร พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีแดง-ดำ ล้มตะแคงเสียหายบางส่วน เบื้องต้นไม่พบร่องรอยของการถูกชนแต่อย่างใด โดยในระยะทางที่รถกระเด็นจากศพ พบมีร่องรอยไถลไปตลอดทาง นอกจากนี้ยังพบว่า รถยังได้พุ่งชนเข้ากับเสาป้ายบอกทางเตือนให้ระวังวัวข้ามถนน ทำให้ปูนแตกได้รับความเสียหาย เหลือเพียงแค่โครงเหล็กเท่านั้น และบริเวณเหล็กโคนเสา ยังคงพบมันสมองของผู้ตายติดอยู่ รวมไปถึงมันสมองและเศษกะโหลกศีรษะกระเด็นอยู่บนถนนอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องช่วยกับเก็บ

จากการสอบสวนญาติเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายบ้านเดิมอยู่ใน ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มีสามีอยู่ใน ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง และมีลูกกันจำนวน 2 คน แต่ผู้ตายได้ไปทำงานเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งอยู่ใน อ่าวนาง จ.กระบี่ ก่อนเกิดเหตุวานนี้ (28 ก.ค.) หลังจากเลิกงานในช่วงเย็น ได้ขี่รถ จยย.คันดังกล่าวออกมาจาก จ.กระบี่ เพื่อตั้งใจจะมาเยี่ยมน้องสะใภ้ของพ่ออายุ 70 กว่าปี ที่ป่วยหนักในพื้นที่ ต.บ้านนา ระยะทางประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร แต่เมื่อขี่เข้ามาถึงใน อ.เมืองตรัง ได้ขี่รถไปหาสามี ซึ่งมีปัญหาส่วนตัวกันก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะกลับบ้านไปเยี่ยมญาติ แต่ปรากฏว่าไม่พบตัวสามี จึงได้โทรฯ ให้พี่สาวออกมาช่วยเหลือตามหา แต่ในระหว่างนั้น ปรากฏว่าได้ขาดการติดต่อกับพี่สาว ด้านพี่สาวจึงได้พยายามโทรฯ หา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลที่มาที่เกิดเหตุ ได้รับสายแล้วแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าวแล้ว ซึ่งเหลืออีกประมาณ 30-40 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านแล้ว

ในเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะหลุดโค้ง เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นทางโค้ง ประกอบกับไฟส่องสว่างดับสนิท ก่อนจะเสียหลักพุ่งขึ้นฟุตปาธชนเสาข้างทาง ศีรษะฟาดกับโคนเสา เป็นสาเหตุเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มอบร่างให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำไปตกแต่งบาดแผล ที่ รพ.ตรัง และนำส่งให้ญาติประกอบพิธีการตามศาสนาต่อไป.