จากกรณีคนร้ายใช้เชือกฆ่ารัดคอ น.ส.เกษร (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี อาชีพแม่บ้านที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง เสียชีวิตบนเตียงนอนในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งในต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่าผู้ตายได้เข้ามาเปิดห้องพักกับหนุ่มคู่ขาอายุประมาณ 50 กว่าปี ก่อนที่หนุ่มคู่ขาจะได้เร่งรีบหนีออกไปกลางดึกและมาพบศพน.ส.เกษร ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 30 ก.ค. พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สืบทราบว่าคนร้ายตัวจริงรายนี้คือ นายเสรี หรือ ไข่ อายุ 57 ปี ก่อนจะขอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับ เลขที่ 216/2566 ลงวันที่ 30 ก.ค.2566 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และนำกำลังตำรวจชุดสืบสวนไปจับกุมตัวได้ที่บ้านเดิมในต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมรถจยย.ของกลางที่ใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี
สอบสวนนายเสรี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่าเป็นคนลงมือฆ่าน.ส.เกษรจริง โดยที่ผ่านมาได้คบหากันมา 3-4 ปีแล้ว ซึ่งตนมีอาชีพเลี้ยงไก่ชนระดับเซียนที่รู้จักกันในวงการไก่ชนอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศในนาม “เซียนไข่” จนเมื่อ 2 ปีก่อนตนได้รับการว่าจ้างให้ไปเลี้ยงไก่ชนให้กับเซียนไก่ชนในประเทศมาเลเซียได้ส่งเงินมาให้ผู้ตายใช้เป็นประจำทุกเดือน ๆ ละ 10,000 บาทไม่ขาด แถมยังจ่ายเงินค่าแชร์ให้อีก 30,000 บาท เพราะตนรักผู้ตายมาก นอกจากนี้ก่อนไปมาเลเซียตนยังนำที่ดินไปจำนองไว้ 50,000 บาท เอาเงินให้ผู้ตายที่อ้างว่ามีหนี้สินไปล้างหนี้
สยอง! สาวใหญ่นัดหนุ่มคู่ขาเสพสุข ก่อนเป็นศพถูกฆ่ารัดคอ ฝ่ายชายหายล่องหน
วันเกิดเหตุหลังจากตนเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียก็นัดหมายกับผู้ตายไปเจอกันที่รีสอร์ท ก่อนมีเพศสัมพันธ์กัน แต่หลังจากเสร็จกิจแล้วผู้ตายกลับมาบอกเลิกตน อ้างว่ามีสามีใหม่แล้ว ตนเสียใจและโกรธแค้นเป็นอย่างมากเพราะที่ผ่านมาทุ่มเทให้ทุกอย่าง จึงเดินออกจากห้องไปหาท่อนไม้เพื่อจะมาทุบฆ่าผู้ตาย แต่หาท่อนไม้ไม่ได้ จังหวะเจอเชือกสีดำที่รัดอยู่ที่ตระกร้าหน้ารถจยย.ของตน จึงแกะออกนำเข้าไปฆ่ารัดคอผู้ตายดังกล่าว
พ.ต.อ.โชคดี กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่มัดตัวนายเสรีจนนำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมตัวมาดำเนินคดี และผู้ต้องหาก็สารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนกรณีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบสวนปากคำก่อนหน้านี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ต้องหาตามที่ออกข่าวไปตอนแรก เป็นแค่ผู้ต้องสงสัยและพยาน ซึ่งตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานมัดตัวนายเสรีอย่างแน่นหนา โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
