เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ก.ค. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.อนิรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้มีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายสืบสวน สอบสวน ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อรวบรวมหลักฐาน ในการแจ้งข้อหา เจ้าของโกดัง ที่เป็นร้านค้า และที่เก็บพลุดอกไม้ไฟ และประทัด ที่เป็นต้นเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ รวมทั้งคนงานที่ถูกระบุว่าเข้าไปทำการเชื่อมชั้นวางสินค้า จนทำให้มีประกายไฟที่เป็นเหตุของการระเบิดในครั้งนี้

ด่วน!โกดังพลุระเบิดสนั่นหวั่นไหวนราธิวาส บ้านเรือน-รถพังยับ เร่งค้นหาเหยื่อใต้ซากปรักหักพัง

สำหรับเจ้าของโกดัง ที่ถูกออกหมายจับในครั้งนี้ได้แก่ นายสมปอง ณ กุล อายุ 42 ปี อยู่ที่ 34/12 หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ อายุ 42 ปี ซึ่งมีชื่อในการจดทะเบียนเป็นเจ้าของร้านวิรวัฒน์ภาณิช แจ้งในทะเบียนการค้าว่า จำหน่ายสินค้าเกษตร ของใช้ในครัวเรือน และประทัด ดอกไม้ไฟ

โดย พล.ต.ท.นันทเดช เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากเจ้าของโกดังดังกล่าว ว่าจะมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 1 ส.ค. นี้ ซึ่งหากเจ้าของไม่มา ก็จะได้ออกหมายจับ ส่วนมีข้อกล่าวหาอะไรบ้างนั้น ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบอีกครั้ง ข้อหาหลักๆ คือ การครอบครองการทำให้เกิดระเบิด มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งมีหลายข้อหา ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมและสอบพยานเพิ่มเติมอยู่ ส่วนผู้ที่เป็นคนงานที่ทำให้มีเหตุระเบิด พนักงานสอบสวนได้สอบไว้แล้ว และก็เป็นผู้ต้องหาเช่นกัน

ส่วนดอกไม้เพลิงที่เก็บไว้ในโกดัง ซึ่งมีอยู่ 2-3 หลุม เชื่อว่ามีมากกว่า 1,000 กิโล ต้องมีที่มาที่ไป เช่น การผลิต การขนส่ง เก็บรักษา ส่งขายในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการก่อสร้าง โกดัง ต้องมีลักษณะพิเศษ ซึ่งต้องตรวจสอบ ส่วนเจ้าของโกดัง เคยถูกจับกุมเมื่อปี 59 ในข้อหาไม่มีอนุญาตในการจำหน่าย ซึ่งการเก็บ จำหน่าย วัตถุที่เป็น พลุ ดอกไม้ไฟ ประทัด มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ 5 กระทรวง ไม่ใช่เป็นเรื่องตำรวจเพียงอย่างเดียว

ในส่วนของอนุญาตก่อสร้างนั้น นายสุชาติ กิจการ ปลัดอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า เจ้าของได้มีการยื่นขออนุญาตสร้างโกดังเก็บสินค้า แต่ไม่ได้ระบุว่าเก็บสินค้าอะไร และเพิ่งสร้างเสร็จเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่จะมีการขนประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ เข้ามาเก็บ และเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งต้องประสานงานกับ อบต.มูโนะ ท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ผู้อนุญาตให้ก่อสร้างอีกครั้ง.

ขอบคุณภาพ : มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก