เมื่อวันที่ 2 ส.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้าตรวจสอบพื้นที่โกดังดอกไม้ไฟระเบิดในชุมชนมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ก่อนเปิดเผยว่า ทาง ผบ.ตร. มีความห่วงใยทุกคน และกำกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ร่วมมือกันทำงานระหว่างกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กองบังคับการตำรวจภูธรนราธิวาส เพื่อดำเนินการ และรวมถึงต้องแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้

สิ่งที่เร่งด่วนที่สุด คือการให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ และเอาผิดกับผู้กระทำผิด ล่าสุดได้ออกหมายจับแล้ว 2 ราย รวมถึงเสาะหาเพื่อเร่งรัดเอาผิดการจำหน่ายวัตถุไวไฟ ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข ทหาร และมหาดไทย รวมถึงกรมปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งต้องทำงานตรงไปตรงมา ใครเป็นผู้ออกใบอนุญาต ไม่มีใบอนุญาต แล้วทำได้อย่างไร ต้องตรวจสอบอนุญาตมิชอบหรือไม่ สำหรับวันนี้เอง ถือเป็นการตั้งหลัก เพื่อไล่จากต้นไปยังปลายของเหตุการณ์ครั้งนี้

สำหรับจุดเกิดเหตุวันนี้ เห็นกับตาว่าไม่สามารถจัดเก็บได้หรือตั้งได้ เพราะเป็นเขตชุมชน เหตุที่เกิดจะต้องดูมีการกำกับดูแล้วหรือยัง ใครละเว้นหน้าที่จนเกิดความเสียหาย ส่วนการช่วยกัน การเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีกฎหมายพิเศษรองรับอยู่ ถ้าสูญเสียจากการพกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5 แสนบาท

ส่วนความคืบหน้านอกจากออกหมายจับ 2 สามีภรรยา ซึ่งขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ ก็เป็นการติดตามเส้นทางนำเข้า ทราบมาแล้วมาจากแหลมฉบัง ซึ่งต้องขยายผลต่อไป ส่วนความผิดของ 2 คน คือ ประมาทเป็นเหตุให้คนอื่นถึงแก่ความตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตรวจสอบไปด้วยว่า 2 คนนี้เป็นเจ้าของจริงหรือไม่ หรือเป็นนอมินี แล้วถ้าเป็นมีใครอยู่เบื้องหลัง ต้องขยายผลกันต่อ รวมถึงขยายไปถึงการจ่ายภาษีด้วย เพราะขนจำหน่ายต่างประเทศ

ส่วนชื่อตำรวจที่บอกว่ารับส่วย ก็ต้องสอบสวนพร้อมให้ความเป็นธรรม อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยปัจจุบันนั้น ก็เห็นแล้วว่าตำรวจดีก็มีมากกว่าตำรวจไม่ดี ยังไงก็ต้องดำเนินการกับคนไม่ดี และที่สำคัญ ตำรวจเองถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เพราะมีคนคอยตรวจสอบการทำงานทั้งทางโซเชียล