การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ผ่านพ้นไป และในส่วนของการเลือกประธานสภาและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงขั้นตอนการโหวตนายกรัฐมนตรีและตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ประชาชนได้ยลโฉมหน้าค่าตาผู้แทน ไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ไปบ้างแล้ว โดยพบว่ามีอีกหลายคนที่เดินบนถนนการเมืองระดับท้องถิ่นมาก่อน พอลงประชันในสนามการเมืองระดับชาติก็เพิ่งได้รับเลือกเป็น สส.ในสมัยแรก ทำให้เป็นที่คุ้นหน้ากันดี พร้อมนำเอาประสบการณ์พกใส่กระเป๋าเข้าสภา เป็นปากเสียงให้กับพี่น้องประชาชนตามที่เคยหาเสียง อย่างเช่น “ครูต่าง” นายชัยมงคล ไชยรบ อดีตนายก อบจ.สกลนคร ซึ่งคร่ำหวอดบนเส้นทางการเมืองนานกว่า 30 ปี ที่ปัจจุบันกลายเป็น สส.ป้ายแดง จ.สกลนคร เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ

“ครูต่าง” ชัยมงคล ไชยรบ อายุ 63 ปี ด้านการศึกษา ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, ปริญญาโทจากมหาลัยราชภัฏพระนคร ปริญญาเอกดุษดีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเวสเทริน์ ก่อนจะก้าวเข้าสู่บทบาททางการเมืองเคยเป็นอดีตข้าการครูประชาบาล แต่ลาออกมาลงสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้าน และ สจ.ตามลำดับ

ต่อมาปี พ.ศ. 2543 นายก อบจ.สกลนคร คนเดิมเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ทำให้พ้นจากตำแหน่ง ตำแหน่งนายก อบจ.จึงว่างลง ในที่ประชุมสภา อบจ. ลงมติโหวตให้นายชัยมงคล ไชยรบ ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนคนเดิม ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ครั้งแรก 9 เดือน ครบวาระ จึงมีการจัดเลือกตั้งใหม่ ก็ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ. สามารถเอาชนะนายชูพงศ์ คำจวง (นายก อบจ.คนปัจจุบัน) และเว้นไป 1 สมัย จากนั้นก็กลับมาชนะเลือกตั้งนายก อบจ. อีกครั้ง ครองตำแหน่ง นายกอบจ. เป็นสมัยที่ 3

กระทั่งปี 2566 มีการเลือกตั้งนายก อบจ.อีก กลับเป็นฝ่ายแพ้ให้กับนายชูพงศ์ คำจวง คู่แข่งเดิม จึงเบนเข็มชีวิตมาสู้ศึกการเมืองระดับชาติ ในฐานะผู้สมัคร สส.เขต 5 จ.สกลนคร สังกัดพรรคพลังประชารัฐ จนได้รับเสียงโหวตจากประชาชน โดยเอาชนะ น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล สังกัดพรรคเพื่อไทย ดีกรีทายาทอดีต สส.เจ้าของเก้าอี้เดิม สร้างปรากฏการณ์ล้มแชมป์ครอบครัว สส. ซึ่ง น.ส.วงศ์อะเคื้อ เป็นทายาทของ พงษ์ศักดิ์-อนุรักษ์ บุญศล อดีต ส.ส.เพื่อไทย ส.ส.ผูกขาดมาอย่างยาวนานนับ 20 ปี แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ ครูต่างสามารถปักธงพรรคพลังประชารัฐได้สำเร็จ

หากย้อนกลับไป ครอบครัวครูต่างเคยลงสมัคร สส. มาแล้วเมื่อเลือกตั้งมีนาคม พ.ศ.62 ได้ส่งลูกชายคนเล็กคือนายณัฐกานต์ ไชยรบ ชิมลางทางการเมือง โดยลงสนามในเสื้อพรรคพลังประชารัฐ แต่พ่ายแพ้ให้กับแชมป์เก่านางอนุรักษ์ บุญศล สังกัดพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 ครูต่างลงสมัครเอง จึงเป็นฝ่ายพลิกชนะ ได้เป็น สส.สกลนครเขต 5 ดังกล่าว


ทั้งนี้ สมัยที่ครูต่าง ดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบจ.สกลนคร ยังได้ควบตำแหน่งนายกสมาพันธ์ อบจ.ภาคอีสาน และนายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย พร้อมทั้งยังได้รับรางวัลการันตรีความสามารถหลายสาขา อาทิ พ.ศ. 2555 รางวัลระฆังทอง บุคคลตัวอย่างแห่งปี สาขาผู้นำท้องถิ่นครั้งที่ 5, พ.ศ.2556 รางวัลสิงห์ทอง โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ, พ.ศ.2557 รางวัลผู้นำท้องถิ่นดีเด่น โดยมูลนิธิเพื่อสังคมไทย, รางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่นดีเด่นครั้งที่ 14 และรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้สนับสนุนงานด้านคนพิการ จากสำนักพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ


ครูต่าง เริ่มมีความสนใจทางการเมืองตั้งแต่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เนื่องจากมองเห็นถึงความเหลื่อมล้ำของสังคม ประกอบกับบิดามีอาชีพครูและเป็นคนใกล้ชิดกับนายเตียง ศิริขันต์ นักต่อสู้ทางประชาธิปไตย อีกทั้งขณะนั้นได้มีโอกาสอ่านหนังสือ 4 รมต. สส.อีสาน สำหรับวันนี้ฐานะคนอีสาน อยากใช้ประสบการณ์ที่เคยบริหารระดับท้องถิ่น เข้ามาลดความเหลื่อมล้ำของสังคมผ่านการเมืองระดับชาติ ส่งต่อและสะท้อนปัญหาเชิงพื้นที่เสนอต่อรัฐบาลหรือผู้ที่มีอำนาจ เพราะเชื่อมั่นเรื่องการกระจายอำนาจ ความเหลื่อมล้ำและประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดันมาจนถึงปัจจุบัน หากถามถึงต้นแบบทางการเมืองคงต้องยกให้นายเตียง ศิริขันต์ เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคารพหรือศรัทธา เพราะมีจิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยจริง ส่วนต้นแบบอีกคนยกให้นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีต สส. ด้วยสาเหตุที่เป็นคนมีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างใจจริง ประกอบกับอยู่ด้วยกันมานาน


สส.ต่าง กล่าวว่า สำหรับส่วนนโยบายเชิงพื้นที่ สิ่งอยากทำมากที่สุดคือเรื่องทะสาบน้ำจืดหนองหาร ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบ แต่มีแนวคิดว่าควรพัฒนาเพราะเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของคนสกลนคร จึงอยากก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด รวมไปถึงการนำเสนอเรื่อง เปลี่ยน อ.สว่างแดนดินซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอน ให้เป็นจังหวัด มุ่งหวังการกระจายอำนาจ ผลักดันความเจริญไปให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ และยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงพัฒนา เพราะ อ.สว่างแดนดิน ไม่มีแหล่งท่องเที่ยว อยากให้เป็นศูนย์กลางด้านการลงทุนด้านต่างๆ อีกทั้งอยากเห็นการพัฒนาอีสานตอนบน เช่น การสร้างทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่อระหว่างนครพนม สกลนคร อุดรธานี นี่คือหนึ่งในแนวคิดที่อยากผลักดันขณะดำรงตำแหน่งเป็น สส.


“สำหรับมุมมองที่ประชาชนมองการเมือง คิดว่าวันนี้ที่บ้านเมืองวุ่นวาย เพราะนักการเมืองตีกรอบ ไม่สามารถก้าวพ้นความขัดแย้งไปได้ มีการแบ่งแยกเป็นหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย หากทุกคนการแยกแยะแล้ว มีจิตสำนึก ร่วมกันต่อสู้พัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองไปด้วยกัน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ โดยไม่แยกฝ่ายแบบนี้ประเทศชาติถึงจะไปรอด อย่างไรก็ดีตนมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ชีวิตที่เหลือจะทำเพื่อชาวสกลนคร” สส.ต่างกล่าว

สส.ต่าง กล่าวในตอนท้ายว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา ขอขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ตนซึ่งเป็นคนสว่างแดนดิน ให้ได้เป็นผู้แทนราษฎร เพราะประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสว่างแดนดิน ยังไม่เคยมีชาวสว่างแดนดินได้เป็น สส.สักครั้ง การได้รับเลือกคราวนี้เป็นสิ่งที่ชาวสว่างแดนดินตั้งใจจะเปลี่ยน เพื่อพัฒนาสว่างให้ดีขึ้น จึงจะถือโอกาสทำงานพัฒนาเมืองสว่างแดนดินให้เจริญก้าวหน้า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนอำเภอสว่าง เป็นจังหวัดสว่างแดนดิน ตามที่ได้หาเสียงไว้ แม้ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม เช่น นำทางรถไฟจากอุดรธานี ผ่านสกลนคร ไปนครพนม โดยเฉพาะคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชน.

——————

เสี่ยวหลงเปา