จากกรณีมีคนไปพบศพนายไพบูลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผูกคอติดกับตัวบ้าน ลักษณะศพหันหน้าเข้าหากัน ที่บ้านเลขที่ 201/2 หมู่ 2 ต.สาวเอ้ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน ชาวบ้านไปพบศพ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา

สาเหตุน่าจะมาจากความเครียดของนายไพบูลย์ หลังจากภรรยาได้หนีไปมีสามีใหม่ ทิ้งให้นายไพบูลย์ อยู่กับลูกสาวตามลำพังมาเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ชีวิตความเป็นอยู่ตั้งแต่ภรรยาหนีออกจากบ้านไป อยู่ด้วยความลำบาก เพราะนายไพบูลย์ มีโรคประจำตัว คือ โรคหอบหืด ไม่สามารถไปรับจ้างทำงานหนักได้ แต่ละวันจะต้องหาปู ปลา ผัก ตามมีตามเกิดมาเลี้ยงลูกสาว ถ้าหาปลาได้มากจะเอาไปขาย ได้เงินเอาไว้ให้ลูกสาวไปโรงเรียน หลายครั้งต้องไปงัดเอาสังกะสีหลังคาบ้านไปขาย หากไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ได้มีการทำการฌาปนกิจศพของ 2 พ่อลูก ที่วัดสาวเอ้ ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง ซึ่งบรรยากาศในงานศพ มีชาวบ้านมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก มีนายโสภณ ซารัมย์ สส. ในพื้นที่เดินทางไปร่วมงานด้วย

โดยนางสำเนียง แสงตะวัน อายุ 60 ปี แม่ของนายไพบูลย์ หรือแอ๊ด ที่ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเปิดเผยว่า เท่าที่ทราบจากครูของน้องเอ ได้เขียนผู้รับผลประโยชน์ประกันอุบัติเหตุในโรงเรียน ระบุชื่อนางวนาลี แม่ของน้องเอ ซึ่งจะได้รับเงินค่าประกันการเสียชีวิตจำนวนเงิน 100,000 บาท แต่ถึงเวลานี้ยังไม่เห็นหน้าแม่น้องเอ เลย ทั้งยังปิดโทรศัพท์ บล็อกเฟชบุ๊ก ไม่สามารถติดต่อได้ จึงอยากจะฝากถึงลูกสะใภ้ ถ้าทราบข่าว ให้กลับมาเดินเอกสารเพื่อรับผลประโยชน์ประกันชีวิต เพราะเงินดังกล่าวสามารถเอามาทำบุญให้ลูกตัวเองได้ ทุกอย่างให้อภัย

สิ้นสุดทางออก! เครียดนํ้าไฟโดนตัด-เมียหนีไปมีผัวใหม่ พ่อฆ่าลูกวัย 10 ขวบก่อนผูกคอตายตาม

ด้านนางสมปอง สุขทวี ครูสอนวิชาภาษาไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาระหว่างการเรียน เด็กมักจะขาดเรียนบ่อยครั้ง คาดว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องการเงิน น้องเอ จะเดินมาโรงเรียนตั้งแต่ตอนเช้า แทบทุกครั้งจะมีภารโรง หรือครูในโรงเรียนถามว่า “เอาเงินมาโรงเรียนกี่บาท” ถ้าน้องบอกว่าเอามา 5 บาท ครูหรือภารโรง จะเอาเงินเพิ่มให้เป็น 10 บาท หรือ 20 บาทเป็นประจำ โชคดีที่โรงเรียนมีอาหารกลางวันทำให้น้องเอ อิ่มท้องไปได้ แต่ปัญหาลึกๆ ยอมรับว่าไม่รู้จะมีมากแค่ไหน