เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 66 ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง และผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินการคลังของธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ว่า 1.แบงก์ชาติเอาแต่รักษาเสถียรภาพมากเกินไป ไม่ปล่อยให้มีความเจริญเติบโต ทำให้ประชาชนมีรายได้น้อยกว่าที่ควร ต้องไปกู้มากินมาใช้ ภาระหนี้ครัวเรือนจึงเป็นกว่า 90% ของ “GDP” รัฐบาลก็ยากจนลง เพราะรายได้ภาษีต่ำ จึงต้องไปกู้มาบริหารประเทศ หนี้รัฐบาลต่อ GDP จึงกว่า 60% แล้ว
2.แม้เงินเฟ้อต่ำเกินไป ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนแข็งเกินไปด้วย จึงทำให้ทั้งการลงทุนและการส่งออกต่ำ แล้ว GDP Growth ต่ำลงอีก ก็ยังขึ้นดอกเบี้ยต่อ ซึ่งเงินเฟ้อปัจจุบันต่ำกว่าเป้าหมายแล้ว ความจริงอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายควรเป็น 2-4% ไม่ใช่ 1-3%
3.แบงก์ชาติใช้อยู่เครื่องมือเดียว คือ Inflationtargeting แต่กดเงินเฟ้อให้ต่ำเกินไป ด้วยการบีบปริมาณเงินบาทในชาติ ให้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
4.แบงก์ชาติควรใช้ Inflation targeting ในเป้าหมายที่ดีกว่านี้ คือทำให้มีการลงทุนเอกชนสูงกว่านี้ นอกจากนี้แบงก์ชาติยังต้องกำหนดเครื่องมือ Exchange rate targeting ให้การส่งออกแข่งขันได้ดีกว่านี้ด้วย (ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีและไม่ใช้เครื่องมือนี้)
5.ความจริงนโยบายอัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน เป็นตัวกำหนด GDP Growth เป็นส่วนใหญ่ เมื่อกำหนดไม่ถูกต้อง GDP Growth ก็ต่ำ ภาษีก็ต่ำไปด้วย งบประมาณประจำปีของรัฐบาลจึงมีน้อย รายจ่ายรัฐบาลจึงเป็นเพียงการกระจายเงินของรัฐว่าใครจะได้อะไรเมื่อไหร่