เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ร่วมกับ นายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัด นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอเมืองราชบุรี นายจำนงค์ จันทร์วงศ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายยศพล ชัยบุลวัชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส. เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านเลขที่ 143/20 หมู่ 5 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่าบ้านหลังดังกล่าวได้มีกลุ่มวัยรุ่นแอบลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ จึงได้เข้าตรวจสอบ พบนายกุลวัฒน์ ทัศเกษร อายุ 32 ปี น.ส.ขวัญนรี เชื้อแถว อายุ 25 ปี และนายปรัชญา โตกราน อายุ 25 ปี อยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังพบกล่องพัสดุสีน้ำตาล อยู่บริเวณหน้าบ้านจำนวนหลายลัง ตรวจสอบพบว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ แบ่งออกเป็น ตัวเครื่อง 110 เครื่อง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 2,069 ชิ้น คอยล์ 2,077 อัน คอลย์(แบบกล่อง) 258 กล่อง นอกจากนี้ยังมียาอันตรายยาแก้ไอ ยาแก้หวัด ยาแคปซูลเขียวเหลือง 828 เม็ด ยาและกัญชาอัดแทงจำนวน 1.2 ขีด และเงินสดที่ได้จากการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า 1,600 บาท โดยของกลางทั้งหมดวางอยู่บริเวณโต๊ะภายในบริเวณบ้านและส่วนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะโตโยต้า ไฮลัก วีโก้ สีขาว ทะเบียน 1ฒน 8189 กทม ที่จอดอยู่บริเวณโรงรถภายในตัวบ้าน ก่อนจะยึดไว้ทำการตรวจสอบ ซึ่งมูลค่าทั้งหมดคาดว่าจะเกิน 1 ล้านบาท ถ้าไปถึงมือผู้บริโภค

จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 สารภาพว่า ของกลางทั้งหมดนั้นเป็นของ นายบาส ทั้งหมด สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 เป็นผู้จำหน่ายสินค้าและดูแลบ้านแทน โดยได้รับเงินค่าจ้างวันละ 400 บาท ส่วนรายได้จากการขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์รวมประมาณ 20,000 บาทต่อวัน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 นั้นยังไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน

นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายยังบอกอีกว่านายบาส จะไปรับสินค้าที่เลียบทางด่วนรามอินทรา โดยจะสั่งบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์มาครั้งละ 40,000-50,000 บาท ซึ่งจากเดิมจะจำหน่ายผ่านหน้าร้านค้า แต่เมื่อถูกจับไปครั้งก่อน ก็ได้เปลี่ยนวิธีจำหน่ายให้กลุ่มลูกค้าประจำผ่านกลุ่มไลน์ และจะนัดรับสินค้ากับลูกค้า หรือหากลูกค้าไม่สะดวกจะส่งผ่านไรเดอร์เพื่อเลี่ยงการจับกุม

ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหา 6 ข้อหา ร่วมกันขายหรือจัดหาด้วยประการใดๆ หรือเสนอหรือชักชวนให้มีการซื้อขาย บุหรี่ไฟฟ้า , ร่วมกันเป็นผู้นำเข้าซึ่งสินค้าต้องห้ามตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไฟนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร , ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้าม , ร่วมกันฝ่าฝืนพระราชบัญญัติศุลกากร ในการซื้อ รับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็ฯความผิด , ร่วมกันเป็นผู้ขายซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันจำหน่ายพืชสมุนไพรที่อยู่ในความควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม(กัญชา)