จากกรณี นายณัฐพล และนางอนันต์ พ่อและย่าของ “น้องเจ้าขา” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ถูกแม่และพ่อเลี้ยงทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยติดตามคดีและความคืบหน้าหลัง น้องเจ้าขาถูกแม่และพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนมีการแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังมีการจับกุมพ่อเลี้ยงและแม่เด็กไว้ได้แล้ว ขณะหลบอยู่ในบ้านพักพื้นที่ย่านลาดพร้าว เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส ขณะเดียวกันตำรวจก็เชื่อว่า ทั้งสองอาจมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ “น้องพีพี” ลูกคนโต ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 30 ส.ค. นายณัฐพล พ่อของน้องเจ้าขาและน้องพีพี และนายปิยณัฐ สุกยัง ทนายความ เดินทางออกจากห้องพิจารณาคดีของศาลจังหวัดนนทบุรี หลังขึ้นไปร่วมฟังคำตัดสินของศาล โดยศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษ น.ส.ณัธรวิชณ์ อายุ 27 ปี แม่แท้ๆ ของน้องเจ้าขาและน้องพีพี นายทินกร อายุ 29 ปี พ่อเลี้ยง ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ทารุณโหดร้าย ทั้ง 2 คน จำคุกตลอดชีวิต หลังให้การรับสารภาพ

นายปิยณัฐ กล่าวว่า วันนี้มาฟังคำพิพากษาอัยการฟ้องมาทั้งหมด 2 คดี คดีของน้องเจ้าขา 1 คดี และของน้องพีที 1 คดี ศาลสั่งรวมการพิจารณา ข้อหาที่ฟ้องมาคือพยายามฆ่าผู้อื่นและเจตนาฆ่าโดยทรมานและทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 อนุ 5 ในส่วนของจำเลยที่ 2 ที่เป็นแฟนใหม่ของแม่เด็ก มีการฟ้องในคดีข่มขืนกระทำชำเราเพิ่มด้วย มีโทษประหารชีวิตทั้ง 2 คน แต่ในกรณียอมรับสารภาพ ศาลเห็นว่าเป็นผลดีต่อรูปคดี จึงลดโทษจากประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิตแทน

พ่อ-ย่า ‘น้องเจ้าขา’ ยันไม่ให้อภัย พ่อเลี้ยง-แม่ใจโหด รับใจจะขาดหมอบอกต้องทำใจ

ด้านนายณัฐพล กล่าวว่า ยอมรับคำตัดสินของศาล ศาลให้เหตุผลมาว่า หากประหารชีวิตทั้ง 2 คน ใครจะมาชดใช้ค่าเสียหาย แต่ตนไม่ทราบว่าติดคุกตลอดชีวิตจะติดกี่ปี ฝากถึงทั้ง 2 คน แม้ศาลจะให้โอกาส แต่ฝั่งนี้จะไม่มีคำว่าอโหสิกรรมหรือยกโทษให้ แต่ก็ขอให้ทำตัวให้สังคมยอมรับ และให้สังคมตัดสินอีกรอบว่าควรจะอยู่หรือไม่อยู่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ศาลจังหวัดนนทบุรีได้พิพากษาตัดสินให้ประหารชีวิต น.ส.ณัธรวิชณ์ กับ นายทินกร 2 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองคนกลับใจให้การรับสารภาพซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคดีในชั้นศาล จึงพิจารณาลดโทษให้ เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิตทั้ง 2 คน