เมื่อวันที่ 2 ก.ย. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.ดส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.หญิง ชาดา เสสะเวช สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครราชสีมาร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ภัสนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ 772/2566 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 2566 ข้อหา “ฉ้อโกง” จับกุมบริเวณหน้าห้องผู้ป่วยชั้น 9 โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 เวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากปี 2565 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายทำอาชีพขายกระเป๋าแบรนด์แนม เวลาต่อมามีคนรู้จักแนะนำ น.ส.ภัสนันท์ ผู้ต้องหา ให้ผู้เสียหายรู้จัก โดยบอกว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษและสามารถซื้อกระเป๋าแบรนด์แนมได้ในราคาถูก จึงเกิดการซื้อขายกันในรอบแรก โดยผู้เสียหายได้โอนเงินไปก่อนของที่ผู้ต้องหาส่งมาปกติเรียบร้อยไม่เกิดปัญหาใดๆ รอบที่ 2 ผู้เสียหายได้สั่งของไปอีก เมื่อถึงเวลาส่งสินค้าผู้ต้องหาได้พูดบ่ายเบี่ยงอ้างว่าติดปัญหาในการขนส่งและได้ทำสลิปใบเสร็จและเอกสารการขนส่งปลอมส่งให้ผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าผู้ต้องหาได้มีการซื้อของมาแล้วจริงๆ และติดปัญหาในการส่งจริง

เมื่อเวลาเนิ่นนานไปผู้เสียหายเกิดความสงสัย จึงได้นำเอกสารไปเทียบกับผู้เสียหายคนอื่นที่ได้สั่งของกับผู้ต้องหาเหมือนกันปรากฎว่า สลิปใบเสร็จและเอกสารต่างๆ เป็นฉบับเดียวกันหมด ผู้เสียหายจึงเชื่อได้ว่าโดนหลอก จึงกล่อมให้ผู้ต้องหาเดินทางกลับมายังประเทศไทยและได้รวมตัวกันแจ้งความทำให้ผู้ต้องหาไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้อีก หลังจากที่ผู้ต้องหากลับมายังประเทศไทยก็มีพฤติกรรมเป็นสาวหล่อเช่ารถหรูและตีสนิทคบหากับผู้หญิงที่มีสถานะการเงินดีหลากหลายอาชีพและหลอกเอาเงินอ้างว่าจะเอามาเคลียร์กับผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายทุกคนไม่ได้รับเงินคืน จำนวนผู้เสียหายประมาณ 30 คน ล่าสุดหลอกตีสนิทกับหมอหญิงรายหนึ่งในพื้นที่จ.นครราชสีมา หลอกเงินจำนวนหลักล้าน รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 5 ล้านบาท จนกระทั่งจับกุมได้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.นครราชสีมา ระหว่างอยู่เฝ้าผู้เสียหายไม่สบาย จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพก่อเหตุดังกล่าวจริง ต้องหาเงินใช้จ่ายเท่านั้น

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.ภัสนันท์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอื่นๆ อีก 6 หมายจับ ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 693/2566 ลงวันที่ 19 ก.ค. 2566 ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอ์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” หมายจับศาลแขวงสระบุรี ที่ 152/2566 ลงวันที่ 1 มี.ค. 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” หมายจับศาลแขวงสระบุรี ที่ 565/2566 ลงวันที่ 31 ก.ค. 2566 ข้อหา“ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 382/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค. 2566 ข้อหา“ความผิดฐานฉ้อโกง, พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์” หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 900/2566 ลงวันที่ 19 ก.ค. 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอ์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 185/2566 ลงวันที่ 27 มิ.ย. 2566 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม” เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหา ส่งศาลอาญามีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.