สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ว่า โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) เปิดตัวแพลตฟอร์มข้อมูลระดับโลก เกี่ยวกับการแยกตะกอนในสภาพแวดล้อมทางทะเล โดยเตือนว่า ระดับของการขุดลอกกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งมันส่งผลกระทบร้ายแรง

“ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ของกิจกรรมการขุดในทะเลน้ำตื้น และการขุดลอกนั้น อยู่ในระดับที่น่าตกใจ” นายปาสคาล เปดุซซี หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์ “กริด-เจนีวา” ของยูเอ็นอีพี ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เช่นเดียวกับความขุ่นของน้ำ และผลกระทบทางเสียงต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล

แพลตฟอร์มข้อมูลใหม่ ซึ่งมีชื่อว่า “มารีน แซนด์ วอทช์” ใช้สัญญาณจากระบบแสดงตนอัตโนมัติ (เอไอเอส) ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เพื่อระบุการดำเนินงานของเรือขุดลอก ตลอดจนติดตาม และตรวจสอบกิจกรรมการขุดลอกทราย, ดินเหนียว, ตะกอน, กรวด และก้อนหิน ในสิ่งแวดล้อมทางทะเลของโลก

แม้กระบวนการดังกล่าวยังอยู่ในระยะเริ่มต้น และจนถึงขณะนี้มีการติดตามเรือประมาณ 50% ของจำนวนทั้งหมด แต่แพลตฟอร์มข้างต้นประเมินว่า ทรายและตะกอนอื่น ๆ ในทะเล ราว 4,000-8,000 ล้านตัน ถูกขุดออกจากสภาพแวดล้อมทางทะเล ระหว่างปี 2555-2562 ซึ่งคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6,000 ล้านตันต่อปี

นอกเหนือจากการนำเสนอตัวเลข ยูเอ็นยังคาดหวังว่า แพลตฟอร์มใหม่นี้จะนำไปสู่การหารือกับภาคส่วนการขุดลอก ผลักดันให้ธุรกิจต่าง ๆ ดำเนินไปในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และปรับปรุงแนวทางปฏิบัติในการขุดของพวกเขาให้ดีกว่านี้

ขณะที่ ยูเอ็นอีพี ระบุเสริมว่า มันมีความจำเป็นเร่งด่วน ในการจัดการทรัพยากรทรายในทะเลให้ดีขึ้น และลดผลกระทบของการทำเหมืองในทะเลน้ำตื้น.

เครดิตภาพ : AFP