จากกรณีตำรวจชุดคลี่คลายคดีคนร้ายก่อคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงก์ หรือ ศิว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จนเสียชีวิตอย่างอุกอาจ ภายในงานเลี้ยงของกำนันนก หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ซึ่งภายหลังเค้นสอบผู้อยู่ภายในงาน กระทั่งนายเก่ง คนงานชาวเมียนมาบ้านกำนันนกยอมรับสารภาพว่ามีตำรวจสั่งให้เอาปืนไปซ่อนจนนำมาสู่การไปค้นจนเจอ และล่าสุดนายโบ๊ท ธิตินันท์ (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางราชบุรี ยอมสารภาพเพิ่มเติมพร้อมนำตำรวจไปงมพบเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดบ้านกำนันนก เป็นเหตุให้นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งการให้นายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผบ.เรือนจำกลางราชบุรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง ตามที่มีการเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ผู้การนครปฐมแจงปมไปงานวันเกิด “กำนันนก” ยันไปแค่ครั้งเดียวช่วงรับตำแหน่งใหม่ๆ

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวปรากฎว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตที่บ้านกำนันนก จังหวัดนครปฐม โดยเป็นผู้ที่นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในบ้านของกำนันนกโยนลงน้ำนั้น กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรีในเรื่องดังกล่าวว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่าบุคคลดังกล่าว ที่อยู่ในคืนเกิดเหตุ คือ นายฐิตินันท์ อินต้นวงค์ เป็นพนักงานราชการที่มาปฎิบัติหน้าที่ในเรือนจำกลางราชบุรี เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ยังทำงานไม่ถึงปีและมิใช่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเขาบินตามที่เป็นข่าว ซึ่งขณะนี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้แล้ว โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจำฯ ประสานขอหลักฐานการจับกุมและการควบคุมตัวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยด่วน เพื่อเร่งดำเนินการออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน รวมถึงยกเลิกสัญญาจ้าง และในส่วนของการดำเนินคดีอาญาขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้  กรมราชทัณฑ์ ไม่ปกป้องผู้กระทำผิดอย่างแน่นอน โดยการกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงต้องดำเนินการและลงโทษขั้นเด็ดขาด.