เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ร.ต.อ.พิเชษฐ์ สิงหา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะบรรทุกปลาชนรถจยย.มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณบนถนนสายเลี่ยงเมืองบ้านควน-ควนปริง พื้นที่หมู่ 10 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ตรัง หน่วยกู้ชีพ รพ.ธนบุรีตรัง หน่วยกู้ชีพเทศบาล ต.โคกหล่อ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง)

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ไฟส่องสว่างข้างทางดับสนิท 2-3 ดวง ในคูน้ำริมถนนพบรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีแดง ทะเบียน บพ 1007 กระบี่ บรรทุกปลาสดมาเต็มคัน หัวรถปักอยู่ในคูน้ำสภาพพังยับเยิน ถุงลมนิรภัยทำงาน ทราบชื่อคนขับคือ นายมารุต ชายพ่อ อายุ 29 ปี ส่วนคนนั่งข้างเป็นชายอายุ 30 ปี ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก่อนจะถูกนำส่งรพ. ห่างออกไปประมาณ 10 เมตรพบถังบรรจุปลา และปลาหางแข็งจำนวนกว่า 2 ตัน ตกกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นถนนและพงหญ้าข้างทาง

ใกล้กันยังพบรถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีเทา-เขียว ทะเบียน 1 กฉ 9022 ตรัง ในสภาพพังยับเยิน ถัดออกไปจากตัวรถจยย. ประมาณ 100 เมตร พบร่างของนายศรายุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี พนักงานขับรถสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ตรัง สวมเครื่องแบบชุดสีกากี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดในสภาพคอหัก กระดูกหลายส่วนของร่างกายและลำตัวบิดเบี้ยว มันสมองกระเด็นเต็มพื้น

ต่อมา น.ส.นิตยา แสงศรี ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ และในระหว่างนั้นภรรยาของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุเช่นเดียวกัน ทันไดที่เห็นร่างไร้วิญญาณของสามีได้ร้องไห้ระงม ก่อนคุกเข่าโผล่เข้าไปกอดร่างของสามีด้วยความเศร้าโศกเสียใจ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับบรรทุกปลาจำนวน 2 ตัน มาจากพื้นที่บ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อจะนำไปส่งลูกค้าที่ จ.สตูล เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุได้พุ่งชนรถ จยย. ของผู้เสียชีวิตเข้าอย่างจัง แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารถจยย. จะขับสวนเลนขึ้นมาเพื่อเลี้ยวเข้าปั้มน้ำมัน หรือขับออกจากปั้มน้ำมัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสอบสวนคนขับกระบะและพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อสรุปสาเหตุในการอุบัติเหตุครั้งนี้

ส่วนผู้เสียชีวิต ทราบว่า หลังจากเลิกงานได้นั่งรออยู่ที่ทำงาน เพื่อที่จะให้ฝนซา หลังจากนั้นได้ขับขี่รถจยย. คันดังกล่าวออกมาเพียงไม่นาน เพื่อที่จะกลับบ้านในต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง แต่ได้มาประสบอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นเสียก่อน

อย่างไรก็ตามทางผู้ที่ใช้รถใช้ถนนต่างวิงวอนให้ทางหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบในถนนสายดังกล่าว เขียนโครงการและตั้งงบประมาณเพิ่มไฟส่องสว่าง และติดตั้งแท่งแบริเออร์ หรือเสายางล้มลุก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากถนนดังกล่าวมีรถสัญจรจำนวนมาก และขับขี่กันด้วยความเร็วสูง พร้อมทั้งมีสถานประกอบการที่มีประชาชนเข้าออกไม่น้อยเช่นกัน.