เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวัฒน์ ทะเลลึก ผู้ใหญ่บ้าน บ้านมดตะนอย หมู่ 3 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้ออกสำรวจความเสียหายที่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 3 ต.เกาะลิบง ซึ่งเป็นบ้านของนายมะหมาด ติ่งเก็บ อายุ 70 ปี หลังถูกคลื่นซัด จนห้องครัวทรุดตัวลงไปในทะเล ฝาพนังแตกร้าว และมีรอยแยกจนถึงขอบหลังคา ทำให้สองตายายไม่กล้าอยู่อาศัย และต้องอพยพหนีตายไปอยู่บ้านญาติ

ส่วนบ้านของนายชาญชัย ยูโสะ อายุ 26 ปี เลขที่ 110/3 หมู่ 3 ต.เกาะลิบง ซึ่งเป็นบ้านของหลานชาย นายมะหมาด และปลูกอยู่ห่างกันประมาณ 4 เมตร ถูกต้นสนขนาดใหญ่ ล้มทับจนกระเบื้องหลังคาแตกเสียหายกว่า 100 แผ่น ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในบ้าน 3 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุด ได้สำรวจพบว่า บ้านมีรอยแตกร้าวกว้างขึ้น และกระเบื้องห้องครัวถูกน้ำซัดจมหายไปในทะเล โดยมีน้ำทะเลซัดเข้ามาถึงตัวบ้าน ยิ่งสร้างความหวาดผวาให้กับเจ้าของบ้านเป็นอย่างมาก หวั่นบ้านจะทรุดตัวเพิ่มและจมหายลงไปในทะเลหมดทั้งหลัง เหมือนกับบ้านของเพื่อนบ้าน 2 หลังที่ถูกคลื่นซัดจมลงทะเลเมื่อปีที่ผ่านมา จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูมรสุม ทำให้คลื่นลมมีกำลังแรงและทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี จนทำให้แผ่นดินบริเวณชายหาด จมหายไปในทะเลกว่า 30 เมตร ในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยมีบ้านที่อยู่ติดทะเลจ่อจะทรุดตัวเพิ่มนับ 10 หลังภายในปี 2566

นายมะหมาด เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงดังกุกกัก จึงย้ายสิ่งของและวิ่งหนีออกมาได้ทัน ซึ่งเมื่อคืนต้องอาศัยนอนบ้านลูก แต่บ้านลูกอีกคนก็ถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับ ทำให้ลูกสาวได้รับบาดเจ็บ ถูกกระเบื้องตกใส่ศีรษะ ทำให้เกิดความหวาดผวาเป็นอย่างมากและกลัวว่าจะมีคลื่นซัดเข้ามาถึงในบ้านอีก

ด้าน นายชาญชัย ยูโสะ เจ้าของบ้านที่ถูกพายุพัด กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุมีคนอยู่ในบ้าน 3 คนตอนแรกคิดว่าฟ้าผ่า และมีกระเบื้องหล่นถูกขาของตน ส่วนแม่ถูกกระเบื้องหล่นใส่หัว ทำให้ตกใจมาก ส่วนข้าวของในบ้านที่เสียหายมีที่นอน เสื้อผ้า ตู้ ซึ่งต้องย้ายไปอยู่บ้านพี่น้อง ส่วนบ้านของพ่อถูกคลื่นซัดพังเสียหายมาก ทำให้บ้านยุบ น่ากลัว หากไม่ตัดต้นไม้คาดว่าน่าจะมีหล่นลงมาทับบ้านอีกแน่

ขณะที่ นายณัฐวัฒน์ ทะเลลึก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกาะลิบง กล่าวว่า บ้านที่ถูกคลื่นซัดอาศัยอยู่กันมานานประมาณ 20 ปีแล้ว เมื่อก่อนหาดจะงอกยื่นออกไปประมาณ 20-30 เมตร ตอนหลังมีน้ำกัดเซาะและมีมรสุมเข้ามา ที่ตนจำได้คือเมื่อประมาณปี 2561 น้ำกัดเซาะมาเรื่อย ๆ จนปีนี้หลังนี้ แต่ปีก่อนมี 2 หลังที่ถูกน้ำกัดเซาะจนพังเสียหาย โดยทางผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.เกาะลิบง ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งบริเวณแนวชายหาดมีบ้านที่จ่อจะถูกน้ำกัดเซาะอีกประมาณ 10 หลัง ตนเชื่อว่ากระแสน้ำมีความรุนแรงมากขึ้น บางครั้งลมพัดแรงโดยไม่ได้บอกเหตุล่วงหน้า ส่วนบ้านที่ต้นไม้ล้มทับมีกระเบื้องแตกประมาณ 100 กว่าแผ่น และไม้โครงสร้างก็หักด้วย

อย่างไรก็ตาม มีประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 14 (174/2566) เรื่องคลื่นลมแรงและฝนตกหนักถึงตกหนักมาก โดยในพื้นที่ภาคใต้จะมีนตกหนักเนื่องจากมีร่องมรสุดพัดผ่านประเทศเมียนมา ทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร พร้อมทั้งขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 10 มิถุนายนนี้.