กำลังเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อน ที่สังคมไทยจับตาดูทุกความเคลื่อนไหว เคส “น้องหยก” ที่ตอนนี้กำลังมีดราม่าเรื่องอยากขอเข้าไปสอบปลายภาคในรั้วโรงเรียน ปรากฏว่าทางโรงเรียนไม่อนุญาตเหตุมองว่าน้องหยกพ้นสภาพการเป็นนักเรียนที่นี่แล้ว เนื่องจากไม่ได้มามอบตัว นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่เพื่อน ๆ ในโรงเรียนเริ่มไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่น้องหยกทำ รวมถึงมองว่าการกระทำของหยก ทำให้เกิดกระแส และมีความวุ่นวายภายในโรงเรียนเกินไป

จนกระทั่งล่าสุดน้องหยกได้ประท้วงด้วยการนั่งหน้าโรงเรียน พร้อมกันชูป้ายขอเข้าห้องสอบ แต่ทางโรงเรียนกลับปิดประตูไม่ให้เข้า ซึ่งน้องหยกก็ไม่ยอมแพ้ แม้ต้องนั่งตากฝนก็ทำเพื่ออยากรักษาสิทธิของตนเอง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดดราม่าขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากโซเชียลมีการแชร์คลิปนาทีที่บุ้งบอกให้น้องเขียนกระดาษและชูป้าย ทำให้สังคมบางกลุ่มพากันวิพากษ์วิจารณ์

ต่อมาล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน “น้องหยก” ก็ได้ออกมาอัปรูปภาพตนเองนั่งหน้าโรงเรียนเหมือนเดิม พร้อมกับถือร่มสีรุ้งและเขียนข้อความว่า “หนูขอเข้าสอบ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ผอ. ไม่เคยถามเลย”

นอกจากนี้ยังเขียนแคปชั่นระบุว่า “หนูมานั่งที่โรงเรียนอีก ยังคงไม่ได้รับสิทธิทางการศึกษาและไม่ได้เข้าสอบ ณ วันนี้โรงเรียนยังไม่เคยมีคำตอบว่า ใครเป็นผู้ตัดสินใจว่าการมอบตัวไม่มีผล ใครให้ผู้ปกครองตามวิ่งไล่ เข้ามาพูดคุยในโรงเรียนตลอดเวลา ใครตัดสินใจคืนเงินค่าเทอมมาเงียบ ๆ”

“พวกครูผู้ปกครองไปพูดกับตำรวจชื่อเสรี ที่ขู่ฆ่าหนู ว่าหนูจะลี้ภัย ว่าต้องใช้กฎหมายกำจัดพี่บุ้ง พูดถึงหนูว่า ถ้าหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก คุณยังเป็นคนจริง ๆ เหรอ และทำงานกับเด็กจริง ๆ เหรอ เคยมีครูถามจริง ทำนองคิดว่าหนูควรไปเรียนต่างประเทศ หนูก็ตอบว่าหนูอยากเรียนที่ไทยนี่แหละ ยังไม่อยากไป แพลนเที่ยวหนูก็ยังคิดไม่ออกจะเที่ยวไหนดี ยังไม่อยากไป”

ที่เราทำอยู่คือเราต้องการสู้ แล้วเราจะออกไปทำไม ในเมื่อเราเลือกที่จะประกาศแถลงการณ์ปฏิเสธอำนาจไปแล้ว คือ จุดประสงค์เราอยากเปลี่ยนสังคมไทย ให้สังคมมันเปลี่ยนดีขึ้น ไม่ใช่ให้ทุกคนที่ออกไปอยู่ที่อื่น รูปนี้พี่บุ้งเป็นคนถ่ายค่ะ หนูขอ หนูมานั่งไม่มีใครมาด้วย ไม่มีใครมาถ่ายรูปจัดฉาก ไม่มีใครมาบังคับ