จากกรณีเกิดเหตุสะเทือนขวัญหดหู่ใจ เนื่องจากนายส่องศักดิ์ หรือ เอ็ม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาฆ่าโบกปูนลูกวัย 2 ขวบ ที่ จ.กำแพงเพชร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสังคมไทย ภายหลังพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้คุมตัวนายส่องศักดิ์ไปตรวจอาการทางจิตที่สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา หลังตรวจสอบประวัติพบว่าเคยรักษาอาการทางจิตมาก่อนหน้านี้ ท้ายสุดพบว่าอาการปกติ ไม่มีอาการทางจิตแต่อย่างใด ตามที่ได้เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องนั้น

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่ สน.บางเขน ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ได้คุมตัว น.ส.เจษฎา หนึ่งในเมียของนายส่องศักดิ์ อายุ 33 ปี ออกจากห้องควบคุมตัวบน สน. ไปสอบสวนที่ห้องสืบสวน ใช้เวลา 30 นาที ก่อนเดินกลับมาทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยท่าทีของ น.ส.เจษฎา ดูผ่อนคลายมากขึ้น มีการยกมือไหว้ขอบคุณชุดสืบสวนที่เดินมาส่ง

จากนั้นเวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้คุมตัว น.ส.เจษฎา ออกจากห้องควบคุม สน.บางเขน ขึ้นรถคุมขังของ สน.บางเขน เพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถาม น.ส.เจษฎา กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า อยากมีอะไรจะพูดถึง หรือขอโทษสังคมอย่างไร แต่ น.ส.เจษฎา ก้มหน้านิ่งเงียบไม่พูด ยกมือไหว้ แล้วบอกว่า “อย่ามาซ้ำเติมกันเลย” จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว น.ส.เจษฎา ไปฝากขังที่ศาลอาญาทันที

คุกคืนแรก! “ไอ้เอ็ม” กระสับกระส่ายเปลี่ยนที่นอน กินข้าวได้ คุยจ้อกับเพื่อนผู้ต้องขัง

ต่อมาผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สัมภาษณ์ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อคืนนี้ได้นำตัว น.ส.เจษฎา ไปชี้จุดที่ทิ้งศพของเด็กทารก เมื่อปี 2559 และ 2561 ปรากฏว่า น.ส.เจษฎา ได้ชี้บริเวณที่ถูกก่อสร้างเป็นปั๊มน้ำมันไปแล้ว หลังจากนี้ จึงต้องรอคณะกรรมการประชุมร่วมกันก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานแล้ว และสภาพแวดล้อมในจุดดังกล่าวก็มีการเปลี่ยนแปลงไป การชี้จุดของ น.ส.เจษฎา สามารถคลาดเคลื่อนได้ ดังนั้น หากมีการทุบเพื่อขุดหาพยานหลักฐานแล้วปรากฏว่าไม่ใช่จุดทิ้งศพที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ ยืนยันว่า พยานหลักฐานที่พบศพเด็กทั้ง 2 ศพ ในพื้นที่ สน.บางซื่อ มีดีเอ็นเอตรงกันกับ น.ส.เจษฎา นั้น เพียงพอต่อการดำเนินคดีแล้ว แต่ตำรวจต้องการทำคดีให้รัดกุมครบถ้วนมากที่สุด