เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ทุกคนต้องเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย มีคนจำนวนมาก ไม่เชื่อว่า คุณทักษิณป่วยถึงขนาดต้องไปนอนโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ซึ่งรองรับผู้ป่วย วีไอพี” หากคุณทักษิณ ไม่ป่วยถึงขนาดนั้น การกระทำของกรมราชทัณฑ์/คณะแพทย์ และ ผอ.รพ.ตำรวจ อาจถือว่า เป็นการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลอย่างไม่เสมอภาค

ซึ่งในยุคปัจจุบัน การกระทำแบบนี้ถือว่าร้ายแรง และ อาจถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในหมวด 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ส่วนจะไปไกลถึงขนาดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 หรือไม่ ผมยังไม่วิเคราะห์ไปถึงขนาดนั้น แต่ผมเชื่อว่า การที่คุณทักษิณ ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และเข้า รพ.แบบวีไอพีในคืนนั้นเลย “ผิดปกติ”

การตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก ตามหลักไม่มีฆาตกรไหนที่ทำผิดแล้วไม่ทิ้งร่องรอย ผมแนะนำ การตรวจสอบอย่างนี้
1.ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ซึ่งผมคิดว่า น่าจะมีผู้ยื่นแล้ว การยื่นต่อ ป.ป.ช. ไม่จำเป็นต้องระบุเลขมาตรการกระทำผิด ระบุเพียงข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่จะเป็นคนสรุปข้อเท็จจริง เข้ากับข้อกฎหมายเอง
2.ยื่นเรื่องต่อ ผอ.รพ.ตร. ขอให้เก็บภาพในกล้องวงจรปิดไว้ตลอดเวลาที่คุณทักษิณพักอยู่ใน รพ. ให้สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครเข้าพบวันไหน เวลา เท่าไหร่ แพทย์, พยาบาล คนไหน เข้าตรวจเวลาเท่าไหร่
3.ยื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้บันทึกรายละเอียดตั้งแต่การรับตัวคุณทักษิณ จนถึงการส่งตัวคุณทักษิณไป รพ.ตร.

4.ขอให้ รพ.ตร. เก็บหลักฐานทางการแพทย์ ของผู้ป่วยไว้ทุกอย่าง รวมทั้งการวินิจฉัย และผลการประชุมของคณะแพทย์ว่าแต่ละคนมีความเห็นอย่างไร
5.ขอให้ ป.ป.ช. กันบุคคลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีไว้เป็นพยาน
6.ในกรณีที่ ป.ป.ช. จงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ตามข้อ 1. ประชาชนสามารถลงชื่อกันให้ได้ 20,000 คน เพื่อยื่นต่อประธานศาลฎีกาเพื่อแต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระ ตาม รธน. มาตรา 236 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 49

ผมเชื่อว่า ป.ป.ช. คงไม่กล้าที่จะปฏิเสธการตรวจสอบเรื่องนี้ “ใครที่คิดว่า เป็นผู้กล้า เดิน ตามข้อ 1-6 เถอะครับ ผมยินดีเป็นที่ปรึกษาให้ อย่าให้บ้านเมืองของคุณเลอะเทอะไปกว่านี้”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ