เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีรายงานว่า พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท. มาชา แก้วทอง รอง ผกก.(ป) พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.(สส) ร.ต.อ.พิชเยศ ชูเมือง รอง สว.(สส) หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จับกุมเฮโรอีนลอตใหญ่ 272 แท่ง มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท พร้อมเครือข่ายค้าเฮโรอีนข้ามชาติ 3 คน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และชุดสายตรวจ 191 ของ สภ.หาดใหญ่ ร่วมกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัดบริเวณสี่แยกควนลัง ถนนสายเอเชีย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อตรวจค้นและจับกุมยาเสพติด หลังจากได้รับรายงานว่า จะมีกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติลำเลียงเฮโรอีนลอตใหญ่จากภาคเหนือไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาใต้
กระทั่งพบรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กค 1837 พัทลุง ตรงตามที่สายรายงานขับผ่านด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ เพื่อขอตรวจค้น ก่อนให้รถเข้าจอดชิดซ้าย แต่รถกระบะคันดังกล่าว กลับเร่งเครื่องขับหนีแหกด่าน เจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามไล่ล่า จนสามารถสกัดจับได้บริเวณหน้าปั๊มพีที ถนนสายเอเชีย ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา ห่างจุดตั้งด่านประมาณ 10 กิโลเมตร
เบื้องต้นจับกุมตัวคนขับ ทราบชื่อ นายบือราเฮง สาเหมาะ อายุ 35 ปี ชาว จ.ปัตตานี และจากการตรวจค้นรถ บริเวณกระบะท้ายมีฝาปิดแบบม่านรูด พบเฮโรอีน 272 แท่ง บรรจุอยู่ในกระสอบ 7 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผลจับกุม นายอับดุลฟาตะ อาแว ชาว จ.ปัตตานี ด้วยกัน ได้พร้อมรถกระบะฟอร์ด สีขาว ทะเบียน ผผ 6937 สงขลา อีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถนำทาง หลังหนีไปกบดานอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา
จากนั้นคุมตัวทั้งสองคนมาสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายค้าเฮโรอีนให้การซัดทอดว่า ได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.โรฮายา เจ๊ะฮะ เป็นชาว อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ให้มาขนยาเสพติดดังกล่าวจาก จ.เพชรบุรี มาส่งให้กับเครือข่ายใน อ.สุไหงโก-ลก และส่งต่อไปประเทศมาเลเซีย โดยเคยขนเฮโรอีน มาแล้ว 6 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ได้ค่าจ้างครั้งละ 400,000-500,000 บาท แต่ไม่รอด และจากการตรวจสอบประวัติทั้งสองคนพบว่า เคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้ว
ต่อมาวันที่ 17 ก.ย. เจ้าหน้าที่จึงนำหลักฐานขอศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ น.ส.โรฮายา เจ๊ะฮะ ผู้ว่าจ้างและติดตามจับกุม ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และยังยึดรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติดได้ 6 คัน โดยทั้งสามคนถูกแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายาเสพติด ให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และสำหรับเฮโรอีนลอตนี้หากสามารถลักลอบส่งข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซียได้สำเร็จ จะมีมูลค่าเพิ่มเป็นสิบเท่าตัวจากราคาต้นทาง
