ภายหลัง น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือมินนี่ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ได้ออกมาเปิดใจ ระบุถึง ตำรวจชุด PCT 4 กดดันบังคับให้เซ็นชื่อ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 เข้าไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ อีกทั้งยังมีการระบุว่า ชุดจับกุมได้ยืดโทรศัพท์มือถือ เเละยังนำภาพส่วนตัว ข้อมูลส่วนตัว เผยแพร่ไป โดยมินนี่ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเผยแพร่ภาพเหล่านี้ลงโซเชียล เเละเตรียมที่จะดำเนินคดี เอาผิดตำรวจที่นำภาพไปเผยเเพร่
ต้องยอมรับว่าชื่อของ “ตำรวจ PCT” กลายเป็นที่จับตามองขึ้นมาทันที พร้อมตั้งคำถามกับความสงสัยถึงบทบาทหน้าที่ “ตำรวจ PCT” (พีซีทีโฟล์) หรือ “ตำรวจ PCT4” ว่ามีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมประเภทใดบ้าง ทำไมถึงเข้ามาทำคดีที่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์
ตํารวจ PCT หรือ POLICE CYBER TASKFORCE (PCT) มีชื่อเต็มในภาษาไทยว่า ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชื่อย่อคือ “ศปอส.ตร.” คือ หน่วยงานรัฐบาลที่มีบทบาทในการ ดําเนินการระดมกวาดล้าง อาชญากรรมทางเทคโนโลยีและและอาชญากรรมทั่วไป ทั้งการหลอกลวง ผ่านสื่อออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่เข้าข่ายการหลอกลวง ส่วน “ตำรวจ PCT4” คือ หนึ่งในชุดปฏิบัติการย่อยของหน่วย PCT
ตํารวจ PCT แบ่งออกเป็น 5 ชุด มี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. หัวหน้าคณะตำรวจ PCT
PCT ชุด 1 มี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช. สตม. เป็นหัวหน้า
PCT ชุด 2 มี พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ8) เป็นหัวหน้า
PCT ชุด 3 มี พล.ต.ต.นกันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 เป็นหัวหน้า
PCT ชุด 4 มี พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผบช. สพฐ.ตร. เป็นหัวหน้า
PCT ชุด 5 มี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. เป็นหัวหน้า
ในส่วนบทบาทหน้าที่ของตำรวจ PCT มีอำนาจหน้าที่ในการปราบปรามอาชญากรรม ทั้งหมด 13 ข้อ
1.การกู้ยืมเงินโดยไม่เป็นธรรม
2.การพนัน
3.ชาวต่างชาติทำผิดกฎหมาย หรืออยู่เกินกำหนดอนุญาต
4.ยาเสพติด/อาวุธปืน
5.ทรัพย์สินทางปัญญา
6.เจ้าหน้าที่รัฐถูกร้องเรียน
7.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
8.สถานบริการ
9.แข่งรถในทางสาธารณะ
10.เร่งรัดกฎหมายจับ/ติดตามการดำเนินคดี
11.รถเถื่อน ป้ายปลอม
12.การท่องเที่ยว
13.อื่นๆ (อาชญากรรมทั่วไป)
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้ที่สายด่วนหมายเลข 1599 และ และ สายตรง 081-866-3000
