จากกรณี สถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ที่เกิดการสู้รบกันระหว่างกองกำลังอิสราเอลกับกบฏฮามาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยในส่วนของคนไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ รักษาราชการแทน รมว.การต่างประเทศ ยืนยันเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้คนไทยเสียชีวิตแล้ว 12 ราย บาดเจ็บ 9 ราย มีคนไทยแจ้งขอกลับประเทศ 1,437 ราย นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 66 นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ว่า ทางเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ได้รายงานว่า น่าจะมีข่าวดีเพิ่มเติมในการในการอพยพคนไทยเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ จะมีการเตรียมแผนว่าแต่ละวันจะมีการนำคนไทยเดินทางกลับประเทศจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งขณะนี้ยอดล่าสุดที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ 3,000 กว่าคนแล้ว จากแรงงานไทยในอิสราเอลที่มีอยู่กว่า 30,000 คน แต่อยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงประมาณ 5,000 คน ซึ่งเราได้มีการทยอยอพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยเรียบร้อยแล้วเรียบร้อยแล้ว 

ทั้งนี้ จะใช้ทุกวิถีทางในการนำคนไทยกลับ ทั้งการเช่าเหมาลำ การใช้เครื่องบินพาณิชย์ของเราเอง ที่จะนำคนไทยกลับเข้ามาให้เร็วที่สุด ชุดแรกที่แน่นอนแล้วจะเดินทางกลับมาถึงวันที่ 12 ต.ค. และชุดที่สองในวันที่ 19 ต.ค. แต่ในระหว่างนั้นจะหาทางเพิ่มเติมในเรื่องของเครื่องบินพาณิชย์ของเราเองที่จะพยายามเข้าไป ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ที่พยายามติดต่อหาทุกช่องทางให้เครื่องบินของเราไปถึงได้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกว่านี้ หากประชุมเสร็จแล้วน่าจะเห็นแผนได้ชัดเจนขึ้นว่าคนไทยจะกลับมาช่วงไหนได้บ้าง ซึ่งขณะนี้สามารถนำเครื่องไปลงที่ประเทศอิสราเอลได้แล้ว แต่ขณะเดียวกัน ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เริ่มขยายวงกว้างเข้าใกล้สนามบิน ซึ่งเราก็เป็นห่วงในจุดนี้ด้วย และจะเห็นได้ว่าเราพยายามเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศอิสราเอล ถ้าหากจำเป็นจะต้องส่งเครื่องบินไป ซึ่งในการเดินทางที่นั่นค่อนข้างลำบาก

เมื่อถามว่ายังมีแรงงานไทยที่ประสงค์จะอยู่ต่อหรือไม่ แต่สถานการณ์ยังรุนแรงจะมีการเตือนอย่างไร นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้แรงงานที่จะกลับมาประมาณ 3,000 คน แต่ที่ประสงค์จะอยู่ต่อยังอยู่หลักร้อย ซึ่งเป็นความประสงค์ของเขาเอง แต่เราก็คงจะต้องเตือนในเรื่องของความปลอดภัย เมื่อถามย้ำว่าแรงงานที่ประสงค์จะอยู่ต่อเป็นกลุ่มผีน้อยหรือเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย นายจักรพงษ์ กล่าวว่า รวมๆ กัน และต้องเรียนว่าเป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูงประสงค์ขอกลับ 

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสที่จะมีคนไทยกลับก่อนไฟลต์แรกวันที่ 12 ต.ค. หรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ไม่น่า อันนี้ถือว่าเร็วสุดแล้ว เมื่อถามด้วยว่า แรงงานที่ถูกจับไปขายต่อมีการประสานช่วยเหลือหรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ได้รับรายงาน แต่ยังไม่มีการยืนยันมาจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล

เมื่อถามต่อว่า เสียงของประชาชนที่มีความกังวลพยายามจะซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์เพื่อเดินทางกลับมาเอง ก่อนที่จะรอเครื่องของรัฐบาล ตรงนี้รัฐบาลจะมีส่วนช่วยเหลืออย่างไรบ้าง นายจักรพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลได้พยายามดำเนินการให้คนไทยได้กับได้ทุกไฟลต์ บางไฟลต์มี 2-3 คนก็เอาหมด น่าจะครอบคลุมทั้งหมดแล้ว ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก็จะดูแลเป็นกรณีๆ ไป 

เมื่อถามอีกว่าได้รับรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการหรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าทางประเทศอิสราเอล ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ทั้งหมด ถ้าเป็นทางการยังไม่สามารถตอบได้ แต่การรายงานจากนายจ้างก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้เพิ่มเป็น 18 คน ส่วนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ยังมีการเจรจาอยู่เรื่อยๆ.