กรณีกำหนดการคนไทย จะเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล รอบแรกในวันนี้ (12 ต.ค.) เป็นแรงงานไทยกลุ่มแรก 15 คน ด้วยสายการบินแห่งชาติของประเทศอิสราเอล จากเทลอาวีฟ เที่ยวบินที่ LY083 โดยเครื่องจะมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งแรงงานที่จะเดินทางมาส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งทุกฝ่ายเตรียมพร้อมต้อนรับแรงงานทุกคนไว้หมด ทันทีที่ออกทางตรวจคนเข้าเมือง จะจัดรถไปรับที่ประตู และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน จะไปรอรับถึงอาคารผู้โดยสาร นั้น

กต.แจงแผนดูแล15คนไทยกลับมาถึงพรุ่งนี้ เยียวยาเบื้องต้นคนละ15,000บาท

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 ต.ค. บรรยากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีบรรดาญาติๆ ของแรงงานไทยในอิสราเอลทั้ง 15 คน รวมทั้งกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมาก มารอรับแรงงานดังกล่าวกันจำนวนมาก โดยระหว่างรอการกลับมาของ 15 แรงงานไทย ผู้สื่อข่าวได้ไปสัมภาษณ์ญาติแรงงานไทยคนหนึ่ง บอกว่าดีใจที่กลับมาได้อย่างปลอดภัย และเสียใจกับคนที่ญาติเสียชีวิตด้วย เพราะมีรายหนึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกันแต่คนละพื้นที่ และอยากฝากถึงรัฐบาลให้ดูเรื่องค่าแรง เพราะหากค่าแรงสูง ก็คงไม่อยากมีใครจากบ้านเกิดไปทำงานต่างแดน

กระทั่งเวลาประมาณ 11.58 น. เจ้าหน้าที่ได้ออกมาประกาศให้สื่อมวลชนอยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้ พร้อมบอกว่าเครื่องบินได้เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว อย่างปลอดภัย โดยระหว่างที่รอแรงงานไทยทั้ง 15 คนออกมา ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญญาติๆ ของทั้งหมดมายืนรอด้านหน้าทางออก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กระทั่งเวลา 12.21 น. เจ้าหน้าที่นำตัวแรงงานไทยทั้งหมดออกมายังจุดที่ญาติและผู้สื่อข่าวรอ หลังผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋า โดยมี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ตามด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นำตัวออกมาบริเวณจุดแถลงข่าว โดยในบรรดาแรงงานไทยทั้ง 15 คน พบว่า 2 คน บาดเจ็บต้องนั่งรถวีลแชร์ออกมา

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำแรงงานไทยทั้ง 15 คน มาส่งขึ้นรถบัสที่เตรียมมารอรับพาไปส่งที่สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข จะรับต่อ เพื่อไปตรวจคัดกรองโรคอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ทุกคนแยกกลับไปตามภูมิลำเนา ส่วนกระทรวงแรงงาน จะไปตั้งโต๊ะเพื่อที่จะจ่ายเงินเยียวยาที่สถาบันบำราศนราดูร ยืนยันถึงความพร้อมในการรับคนไทยกลับสู่ประเทศไทย ส่วนรอบที่ 2 ก็จะมีคนไทยเดินทางกลับมาอีก 140 คน โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ ไปลงที่สนามบินกองทัพอากาศ

ส่วนแรงงานที่เหลือยังไม่ได้เดินทางกลับ ทางสถานทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ กำลังทำกำหนดการและอพยพทางเครื่องบินกลับมาไทยเป็นระยะ แต่ต้องดูความพร้อม เพราะคนไทยจะกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ไม่เหมือนชาติอื่นที่มีน้อย อาจจะรวมตัวกันได้ง่าย แต่ของคนไทยอยู่ตามพื้นที่การเกษตร ซึ่งเอกอัครราชทูตและที่ปรึกษาของกระทรวงแรงงาน ไปลงพื้นที่พยายามจดรายชื่อ รวมถึงมีใบสมัครออนไลน์ที่แรงงานทุกคนกรอกแสดงความสมัครใจที่จะกลับ ตอนนี้ได้รับแจ้งมาประมาณ 3,000 กว่าคน และจะต้องนัดวันและประสานงานหาจุดรวมพล และดูว่าคนจำนวนเท่าไร พร้อมเดินทางกลับวันไหน เครื่องบินมาเมื่อไร ขณะที่จุดรวมพลขณะนี้ สถานทูตกำลังดูถึงความพร้อม ขณะเดียวกันได้รับรายงานว่า สถานการณ์ในอิสราเอลขนาดนี้เริ่มดีขึ้น กลุ่มฮามาสก็เริ่มถอยออกนอกพื้นที่ตามที่มีการปรากฏข่าว