เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่15 ต.ค.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านเลขที่ 68 บ้านาทัน หมู่ 6 ต.ท่าลี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายพิรุฬห์ ทานนพิมพ์ หรือ บอม อายุ 34 ปีแรงงานไทยในอิสราเอล โดยเมื่อวานนี้ ( 15 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้มาแจ้งข่าวว่า นายบอมได้ชีวิตแล้ว พบนางนิภารัตน์  ทานนพิมพ์ อายุ 63 ปี และนายแปลง ทานนพิมพ์ อายุ 69 ปี พ่อและแม่ พร้อมด้วยญาติ อยู่ที่บ้านโดยมีเจ้าหน้าที่เครือข่ายกรมแรงงานจังหวัดอุดรธานี ได้มาชี้แจงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับว่ามีอะไรบ้าง

โดยทางครอบครัวได้ทำพิธีเรียกขวัญ แต่งขันธ์ 5 ดอกไม้ธูปเทียน และเอาหม้อนึ่งข้าวเหนียวมาประกอบพิธี เพื่อทำการเรียกชื่อลูกชายให้กลับมาบ้าน หากยังมีชีวิตอยู่แต่หากเสียชีวิตไปแล้ว ก็ให้วิญญาณกลับมาบ้าน ไม่ให้ไปเร่ร่อนอยู่ที่นั่น ขณะที่ทำพิธีอยู่นั้นนางนิภารัตน์  แม่ของนายบอม ทำการร้องเรียกชื่อลูกชายใส่ลงในหม้อนึ่งข้าวและร้องไห้แทบใจจะขาด อยากให้ลูกชายยังมีชีวิตอยู่  และยังไม่เชื่อว่าลูกชายเสียไปแล้ว ถึงแม้ว่านายเจริญจิต สืบสาววงศ์ นายอำเภอกุมภวาปี จะมาบอกข่าวร้ายก็ตาม เพราะยังไม่เห็นศพของลูกชายในการยืนยันและยังทำใจไม่ได้

นางนิภารัตน์  กล่าวว่า  ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนแชทไปเฟซบุ๊กถามลูกชายว่ากินข้าวอร่อยไหม ทำไมไม่รับสายแม่ไม่นานลูกชายก็วีดีโอคอลกลับมาหาภรรยาเขา แล้วตนก็ได้คุยกับลูกชายโดยลูกชายถามแม่ว่า แม่กินข้าวยัง ให้กินข้าวมากๆ นะ ถ้ากลับมาบ้านจะได้ไปกอดแม่ให้หายคิดถึง หลังจากนั้นก็ติดต่อลูกชายไม่ได้เลยโดยลูกชายไปทำงานฟาร์มโคนมที่ประเทศอิสราเอล เงินเดือนตอนนี้เกือบ 100,000 บาทส่งมาให้ทางบ้านเดือนละ 50,000 บาท โดยได้เงินกู้เงินจำนวน 120,000 บาท  เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ลูกชายเดินทางไปทำงานต่างประเทศ

”หลังจากลูกชายไปทำงานประเทศอิสราเอล ทำให้ครอบครัวทางบ้านดีขึ้นมา หนี้ที่กู้ยืมไปก็ใช้จนหมดแล้วก่อนหน้านี้ลูกเป็นพนักงานขับรถส่งของอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่ลูกชายตัดสินใจไปทำงานประเทศอิสราเอล เนื่องจากเห็นรายได้ดี ความฝันของลูกชายต้องการหาเงินมาสร้างบ้านใหม่ มีรถยนต์สักคันและมีฟาร์มเลี้ยงวัวเป็นของตนเอง”