เมื่อเวลา 19.05 น. วันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 17 บ้านกระแชงเมืองใหม่ ต.กระแชง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีรถตู้บรรทุกศพของนายพงษ์พัฒน์ สุชาติ อายุ 29 ปี นำศพมาส่งให้กับพ่อแม่ลูกเมียญาติพี่น้อง โดยมี นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ และคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่

โดยก่อนที่จะนำศพของ นายพงษ์พัฒน์ เข้าไปในบ้าน น.ส.วารุณี ดาวไสย อายุ 30 ปี ภรรยาของนายพงษ์พัฒน์ ได้นำเอาเงินเหรียญบาทมาโปรยบริเวณทางเข้าบ้านเพื่อเป็นทาน จากนั้น ได้ทำการจุดธูปจำนวน 6 ดอก เพื่อขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่จะขออนุญาตนำศพของนายพงษ์พัฒน์ เข้าไปภายในบ้าน หลังจากเสร็จพิธีแล้วเจ้าหน้าที่และญาติพี่น้องได้ช่วยกันนำเอาโลงศพ ที่บรรจุร่างเข้าไปตั้งบริเวณบ้าน ซึ่งมีการจัดเตรียมสถานที่ไว้แล้ว มีการนิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา รวมทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับนายพงษ์พัฒน์ใหม่

หลังจากเสร็จพิธีทางศาสนาแล้วได้นำร่างที่ไร้วิญญาณของนายพงษ์พัฒน์ เข้าไปบรรจุไว้ในโลงเย็น ซึ่งปรากฏว่า นายไสว สุชาติ อายุ 55 ปี พร้อมด้วย นางไพรวรรณ สุชาติ อายุ 53 ปี และ น.ส.วารุณี ย อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพ่อ แม่ และภรรยาของนายพงษ์พัฒน์ ต่างพากันร่ำไห้อย่างน่าเวทนา เนื่องจากไม่คาดคิดมาก่อนว่า นายพงษ์พัฒน์ จะมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดก่อนถึงวัยอันควรเช่นนี้  

ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานแรงงานจังหวัดศรีสะเกษ นำเอาพวงหรีดของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงานรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน มาเคารพศพผู้เสียชีวิต  ขณะที่ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้นำเอาพวงหรีดของ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ – ภคนันท์ ศิลาอาสน์ ผวจ.ศรีสะเกษและภริยา มาวางเคารพศพเช่นกัน จากนั้น ได้มีการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนแรก

นางทัศนี ขจัดมลทิน จัดหางาน จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีนายพงษ์พัฒน์ เป็นแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล โดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่งไปทำงาน ในส่วนของสิทธิประโยชน์นั้น กรณีเป็นผู้เสียชีวิต จะได้เงินจากทางกองทุนกรมการจัดหางาน กองทุนช่วยเหลือผู้ไปทำงานต่างประเทศเสียชีวิตจะได้รายละ 40,000 บาทและส่วนหนึ่งจะได้เงินจากทางกองทุนของประเทศอิสราเอล จะได้ให้กับภรรยาของผู้เสียชีวิตที่สมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉลี่ยจะได้เงินประมาณ 30,000 – 34,000 บาท จนกว่าภรรยาจะมีสามีใหม่ก็จะยุติการจ่ายเงินทันที และบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายก็จะมีการจ่ายเงินรายเดือน ๆ ละ 5,000 ถึง 12,000 บาท จนกระทั่งอายุถึง 18 ปีก็จะยุติการจ่ายเงินให้ ซึ่งการช่วยเหลือเยียวยาดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ไปทำงานอยู่ต่างประเทศและต้องเสียชีวิตในครั้งนี้