เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ร.ต.อ.รัฐพล ขวัญเซ่ง ร้อยเวร สภ.หนองปลิง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆาตกรรมระหว่างสามีภรรยา เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนครสวรรค์

บ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านจัดสรรชั้นเดียวและที่บริเวณหน้าบ้าน ได้มีการเปิดเป็นร้านขายอาหาร และขายของชำ โดยมีป้ายชื่อหน้าบ้านว่าเป็นบ้านของ ร.ต.ประสพสุช อดีตทหารเกษียณวัย 65 ปี ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบภายใน พบว่า มีศพผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน และพบตัว ร.ต.ประสพสุข ได้รับบาดเจ็บจากการถูกปืนยิงเสยใต้คาง นอนจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ภายในห้องนอน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัย รีบนำตัวส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาล ก่อนจะตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ พบปืนลูกโม่ สีดำขนาด .38 ตกอยู่ที่ข้างเตียง 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนศพที่พบบริเวณหน้าบ้าน เป็นศพของนางวิลาวรรณ อายุ 70 ปี ภรรยาคู่ทุกข์คู่สุขของ ร.ต.ประสพสุช และทางแพทย์เวรได้ทำการชันสูตรตรวจสอบศพ พบว่ามีร่องรอยบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด และทราบว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุ ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น ร.ต.ประสพสุข สามีของนางวิลาวรรณ ที่เกิดอาการเครียด มีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา ก่อนจะลงมือใช้ปืนคู่กายยิงภรรยา จนเสียชีวิต ก่อนจะหนีเข้าไปยิงตัวเองภายในห้องนอน หวังหนีความผิด

จากการสอบถามเพื่อนบ้านรายหนึ่ง ทราบว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นช่วงเวลาตี 4 ใกล้จะตี 5 แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะรู้เลยว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นมาจากบ้านที่เกิดเหตุ เนื่องจาก ร.ต.ประสพสุข มักมีปากเสียงกับภรรยา และได้มีการเอาปืนยิงขึ้นฟ้าอยู่เป็นประจำ ในเรื่องที่นางวิลาวรรณ มักจะอาศัยให้สามีขี่ จยย. พาเจ้าตัวไปซื้อของที่ตลาดมาขาย แต่กลับโดนสามีบ่ายเบี่ยงไม่ยอมไป จึงทำให้ทั้งคู่ มักมีปากเสียงกันเกือบทุกวัน แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่า วันนี้จะมาเกิดเหตุสลดขึ้นกับคนทั้งคู่

ด้านเพื่อนของมือปืน กล่าวว่า คนก่อเหตุเคยเป็นทหารเสนารักษ์ และได้ขอเออร์ลี่รีไทร์ออกมาเปิดร้านขายอาหารและของชำกับภรรยาที่บ้านเพียงสองคน เพราะลูกๆ โต และแยกย้ายไปทำงานต่างจังหวัดกันหมด และทราบว่าระยะหลังเขาเป็นโรคมะเร็งอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่าส่วนใดของร่างกาย จึงเชื่อว่าเจ้าตัวหน้าจะมีเรื่องเครียดๆ อยู่หลายเรื่อง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงกันต่อไป