เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงข้อกังวลในการผลักดันนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกอย่างก็ยังเดินหน้า เพราะไม่ได้คิดขึ้นมาลอยๆ มีการเตรียมการมาแล้ว เพียงแต่การรับฟังความเห็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการปรับให้มีความสอดคล้องมากขึ้น เพราะเราคิดในกรอบนโยบายที่เป็นแพ็กเกจใหญ่ เช่น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตกำหนดกรอบการใช้ 4 กิโลเมตร บางพื้นที่อาจไม่เหมาะสม อาจกำหนดให้กฎหมายขยายความได้มากขึ้น

เมื่อถามว่า จะออกได้ทันเดือ ก.พ. 67 หรือไม่ เนื่องจากมีบางฝ่ายท้วงติงเรื่องข้อกฎหมาย เพราะยังไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอให้อนุกรรมการที่ตั้งขึ้นหารือกัน ทบทวนและปรับตามความเหมาะสมที่กฎหมายอนุญาตตามเป้าหมาย ยืนยันทุกนโยบายที่ประกาศไปจะพยายามทำให้สำเร็จ

เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคร่วมที่ต่อการเชียร์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นายภูมิธรรม กล่าวว่า ครม. รับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องมีอะไรน้อยใจ ทุกคนช่วยกันผลักดันอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้เป็นบทบาทหลักของพรคเพื่อไทย (พท.) ที่เป็นคนคิดและวางมาทั้งหมด เมื่อมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น เชื่อว่า ครม. ทั้งคณะรับเรื่องนี้เป็นนโยบายรัฐบาลแล้ว รับเป็นมติ ครม. แล้วก็จะผลักดันด้วยกัน ไม่มีอะไรน่าน้อยใจ

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่านโยบายนี้ออกมาแล้วจะไม่ทำให้รัฐบาลล่มกลางคัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้คุยกันในที่ประชุม รัฐมนตรีพรรค พท. แต่หากถามความมั่นใจก็ต้องตอบว่ามั่นใจ เพราะเราคิดว่านี่เป็นเงื่อนไขสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญคือการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียนของเงินภายในประเทศให้มากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้มากขึ้น ดังนั้นไม่มีปัญหา เพียงแต่ข้อห่วงใย ข้อท้วงติงอันไหนเป็นประโยชน์ก็เอามาปรับ

เมื่อถามว่าความชัดเจนเรื่องที่มาของงบประมาณ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รออนุกรรมการฯ ได้พิจารณา ส่วนแหล่งงบประมาณที่มีอยู่ในหน้าตักของรัฐบาลตอนนี้นั้น ต้องรออนุกรรมการฯ สรุปให้ รอให้ทุกอย่างชัดเจนก่อนแล้วจะแถลงทีเดียว

เมื่อถามว่าสามารถพูดได้เลยหรือไม่ว่าเรื่องเงินไม่มีปัญหา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหา ตนคิดว่าโครงการนี้น่าจะเดินได้ แต่วิธีการเป็นรายละเอียดที่ต้องใช้ความเข้าใจในการมอง ถ้าตอบแบบนี้ก็ต้องตอบว่าไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่ากรณีมีการวิพากษณ์วิจารณ์หนักว่า รัฐบาลเพิ่มเริ่มนับหนึ่งตอนที่ได้เป็นรัฐบาล ก่อนหน้านั้นมีนโยบายออกมาโดยไม่ได้ศึกษาก่อน จะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการวิจารณ์ที่อาจจะไม่ได้เข้าใจสิ่งที่รัฐบาลพรรค พท. คิดและดำเนินการ เรื่องนี้มีการคิดและดำเนินการก่อนหน้ามาเป็นปี เพียงแต่มีการคิดเริ่มใหม่นอกกรอบที่เป็นอยู่ การคิดนอกกรอบต้องอาศัยการดูรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วนก็เป็นธรรมดา 

“พรรค พท. ก็คิดหลายโครงการ เช่น เราคิดเรื่องโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เราก็คิดว่ามีปัญหา ก็ได้ทดลองทำและพิสูจน์ให้เห็นว่าทำได้ เรื่องการกระจายเงินกองทุนหมู่บ้านละล้าน ก็ทำจนทุกคนได้เห็นว่าสามารถทำได้ทั้งที่มีเสียงต่อต้านมา รวมถึงกรณีรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายก็ทำได้ เพียงแต่ในการคิด เราคิดจากข้างบน จากการพยายามตั้งโมเดลในการทำงาน แต่เมื่อลงรายละเอียดก็ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการคิด ไม่มีอะไรที่สำเร็จและสามารถคิดได้ตามที่อยากทำ ทุกอย่างต้องเอาความเป็นจริงมาตรวจสอบกับความคิด ถ้าประสานแล้วเป็นไปได้ก็สามารถแก้ได้ ที่ผ่านมา เราประสบการณ์แบบนี้และเรากล้าคิดออกนอกกรอบ และหวังว่าจะเป็นจุดสำคัญในการเปลี่ยนผ่าน เพียงแต่การวิพากษ์วิจารณ์อาจจะไม่เข้าใจวัตถุประสงค์การทำโครงการ แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นความคิดเห็นที่ติติง เราก็ให้ความสำคัญ ส่วนไหนที่เหมาะสมก็พยายามทำ นำไปปรับใช้” นายภูมิธรรม ระบุ.