เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผช.ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร.(สส.) ได้บินด่วนมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดี นายเชาวลิต หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษคดีสำคัญ ซึ่งมีพวกพาหลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผช.ผบ.ตร., ผบช.ภ.8, ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานผลความคืบหน้าของคดี โดยประชุมเคร่งเครียดนานกว่า 6 ชั่วโมง

ภายหลังประชุมเสร็จ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนคดีเสี่ยแป้ง จากพยานหลักฐาน ณ ตอนนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะหลบหนีออกไปยังต่างประเทศแล้ว ซึ่งทางตำรวจจะมีการออกหมายแดงต่อไป พร้อมกับจะมีการประสานกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แต่ละประเทศไว้ด้วย

จากการสอบปากคำนายจักรี หรือ บิ๊ก และนายจีระวุฒิ หรือ ปอย 2 ผู้ต้องหาที่ให้การช่วยเหลือพาเสี่ยแป้งหลบหนี ทั้งสองยอมรับว่า มีการไปส่งจริง ก่อนจะมีการแยกย้ายกัน แต่ทางตำรวจขอไม่ระบุว่า สถานที่ทั้งคู่ไปส่งเสี่ยแป้ง จุดสุดท้ายเป็นที่ใด เพราะข้อมูลทุกอย่างอยู่ในสำนวนหมดแล้ว ในส่วนประเด็นที่ทั้ง 2 คน ให้การว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมพาเสี่ยแป้งหลบหนีไปนั้น ตนมองว่าผู้ต้องหามีสิทธิให้การอย่างไรก็ได้ แต่ตนเชื่อว่าทางตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอ ส่วนข้อถามที่ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เสี่ยแป้งใช้เส้นทางหลบหนีไปยังท่าเรือตำมะลัง อ.เมือง มุ่งหน้าไปเกาะลังกาวีนั้น ตนยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ เพราะเส้นทางดังกล่าว สามารถออกไปต่างประเทศได้หลายทาง

ขณะที่วานนี้ ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวอีก 1 ราย คือ นายสุทิวัส อายุ 28 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถเก๋งสีดำ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนอยู่ในระหว่างการไล่ล่า ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสำนวน ในส่วนประเด็นเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทั้ง 4 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่เสี่ยแป้งหลบหนีนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการสอบปากคำเพิ่มเติม และถ้าหากพบว่ามีความผิดจริง ทางตำรวจจะมีการออกหมายจับต่อไปทันที