เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ได้โพสต์เผยจดหมายเปิดผนึกของผู้เสียหาย กรณี นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล เพื่อไว้อาลัยให้กับการละเลยในการตระหนักเรื่องความรุนแรงทางเพศ โดยมีเนื้อหาว่า

“จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อไว้อาลัยให้กับความละเลยของคุณในการตระหนักถึงประเด็นความรุนแรงที่เกิดจากการคุกคาม การล่วงละเมิดทางเพศ และความเหลื่อมล้ำทางเพศในสังคมปัจจุบัน

ดิฉันเห็นว่าประเด็นความรุนแรงและความเหลื่อมล้ำทางเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซับซ้อน และต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตามประเด็นเหล่านี้ เป็นประเด็นที่บุคคลที่เรียกตัวเองว่าเป็น “ตัวแทนของประชาชน” จำเป็นต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ เป็นรากฐานสำคัญที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

จากเหตุผลข้างต้นทําให้ดิฉันรู้สึกผิดหวังในผลการลงคะแนนเสียงเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเผยให้เห็นว่าสมาชิกผู้แทนราษฎร 22 คน ในพรรคก้าวไกล ยังไม่ตระหนักถึงความรุนแรงจากการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้น นอกจากนั้น ยังเพิกเฉยต่อทัศนคติที่คับแคบและขาดความรับผิดชอบของผู้กระทำ การพิจารณาคดีอย่างเหมาะสม สําหรับกรณีความรุนแรงทางเพศจำเป็นต้องมีการสอบสวนถึงปัจจัย หลักฐาน และเจตนาของผู้กระทำ

ดิฉันมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการมอบหลักฐานทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงเจตนาที่ชัดเจนของผู้กระทำในการล่วงละเมิดทางเพศ

ความคาดหวังของดิฉัน คือ การที่สมาชิกผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ซึ่งมักยกย่องตนเองว่าเป็นผู้มีการศึกษา มีเกียรติ และมีความตระหนักรู้ถึงประเด็นต่างๆ ในสังคม ใช้วิจารณญาณและจิตสำนึกความเป็นเพื่อนมนุษย์ ในการตัดสินโดยพิจารณาจากหลักฐานทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังจนทำให้ดิฉันเกือบจะสิ้นหวัง เพราะผลลัพธ์นั้น แสดงให้เห็นว่าสมาชิกบางท่านได้ปล่อยให้แรงจูงใจส่วนบุคคล บ่อนทําลายการแสวงหาความยุติธรรม

ขณะนี้ สังคมจําเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่เพิกเฉยต่อกรณีการล่วงละเมิดทางเพศ และไม่ควรหาค่าแก้ตัวใดๆ ที่พยายามลดความรุนแรงของพฤติกรรมดังกล่าว การล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ผิดอย่างแน่ชัดและปฏิเสธไม่ได้

การกระทํา ที่ทำให้ผู้อื่นตกเป็น “วัตถุทางเพศ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระทำโดยบุคคลในตำแหน่งที่มีอำนาจเหนือกว่า สามารถให้คุณ ให้โทษได้ ถือเป็นความผิดร้ายแรง

ดิฉันเห็นว่าการกระทำเหล่านี้เป็นการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยเจตนาว่าคนเหล่านั้นไม่มีความสำคัญ ลดทอนคุณค่า และเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างหาที่สุดไม่ได้ การกระทำนี้ เป็นสิ่งที่ “น่ารังเกียจ” ส่งผลทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างใหญ่หลวงต่อผู้เสียหาย

ความอยุติธรรมที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ การที่ผู้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ตระหนักรู้ถึงความผิดนั้น นอกจากนั้น ยังมีการกล่าวหาและนำข้อมูลส่วนตัวของดิฉันออกสู่สาธารณชน การกระทำเหล่านี้เป็นการโยน ความผิดและผลักภาระในการพิสูจน์ความจริงมาที่ผู้ร้องโดยตรง

ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ตามหลอกหลอน ผู้ถูกกระทำแม้กระทั่งหลังจากที่ได้รับความยุติธรรมแล้วก็ตาม และมีเพียง “เหยื่อ” เท่านั้นที่จะสามารถรับรู้ ผลกระทบทีเจ็บปวดอย่างหาที่สุดไม่ได้จากการล่วงละเมิดทางเพศ

จากสิ่งที่ดิฉันได้ชี้แจงข้างต้น ดิฉันขอวิงวอนให้ทุกท่านพิจารณาอีกครั้งว่า บุคคลนี้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็น ผู้แทนราษฎรหรือไม่ ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ว่า ถ้าหากเหตุการณ์เหล่านี้เกิดกับคนใกล้ชิด คนสนิท พี่สาว น้องสาว ลูกสาวหรือภรรยาของคุณ

คุณจะยังยินดีที่สนับสนุนบุคคลที่คุกคามทางเพศหรือไม่ คุณยังยืนยันที่จะเข้าข้างเพื่อนของคุณหรือไม่ คุณเป็นเพียงนักการเมืองที่มีอคติอีกคนที่ปล่อยให้ผลประโยชน์ส่วนตัวกลืนกิน จิตสำนึกของคุณหรือไม่ หรือคุณจะเป็นนักการเมืองที่ยืนอยู่บนหลักการ ความจริง และความถูกต้อง

การตัดสินใจของคุณในครั้งนี้ สะท้อนมุมมองและทัศนคติของคุณ รวมถึงอุปนิสัยและความจริงใจในการตระหนักถึง ความรุนแรงในการคุกคามทางเพศ

นอกจากนี้ ผลลัพธ์จากทางเลือกที่คุณตัดสินใจยังทำหน้าที่เป็น เครื่องเตือนใจ ว่าคุณได้ล้มเหลวในความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้แทนราษฎรที่ดี และไม่สามารถเป็นผู้แทนราษฎรที่ประชาชนไว้ใจอีกต่อไป”

ด้วยความนับถือ

ผู้เสียหาย