เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงรายละเอียดเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีกำหนดการแถลงข่าวความชัดเจนทุกอย่าง ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ โดยได้บอกสั้นๆ ว่า “วันศุกร์ครับ วันศุกร์ครับ”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ทุกอย่างจะจบใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ พยักหน้ารับ พร้อมบอกให้รอนายกฯ เป็นผู้แถลงข่าว ก่อนเดินขึ้นห้องประชุม ครม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่  24 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์แจกเงินดิจิทัล 3 แนวทาง เสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ เล็งตัดสิทธิคนรวยที่มีรายได้เกิน 25,000 บาทต่อเดือนและเงินในบัญชีเกิน 1 แสนบาท หรือรายได้เกิน 50,000 บาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีเกิน 5 แสนบาท หรือให้เฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พร้อมตัดทางเลือกใช้เงินกู้จากธนาคารออมสิน เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมาย

คณะอนุกรรมการฯ ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวิฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน เปิดเผยเมื่อ 25 ต.ค. ว่า ภายในอนุกรรมการฯ เห็นตรงกันว่า การกำหนดกลุ่มเป้าหมายจะตัดคนรวยออกจากเดิม 56 ล้านคน แต่จะกำหนดเกณฑ์ความรวยระดับใดจะเสนอเป็นทางเลือกให้คณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ จาก 3 แนวทาง ได้แก่

1. ตัดคนมีรายได้เกิน 50,000 บาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีมากกว่า 500,000 บาท ซึ่งจะเหลือผู้เข้าเกณฑ์ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.9 แสนล้านบาท

2. ตัดคนที่มีรายได้เกิน 25,000 บาทต่อเดือน และมีเงินในบัญชีมากกว่า 100,000 บาทออก จะเหลือผู้ที่เข้าเกณฑ์ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.3 แสนล้านบาท

3. ให้เฉพาะกลุ่มเปราะบาง ในกลุ่มผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐราว 15-16 ล้านคน ใช้งบประมาณ 1.5-1.6 แสนล้านบาท แต่ทางเลือกนี้ จะไม่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ