สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พามารดาของผู้ต้องขังชายในคดียาเสพติด ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ ได้เพียง 4 วันกลับเสียชีวิต โดยเมื่อนำร่างส่งไปผ่าชันสูตร ผลออกมาว่าผู้เสียชีวิตมีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือเส้นเลือดหัวใจตีบ แต่ครอบครัวยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะบุตรชายเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรง จึงเข้ายื่นเอกสารคำร้องทุกข์ ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ต่อนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ย. กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่เอกสารข่าวแจกสื่อมวลชน เปิดเผยถึงกรณีที่ญาติผู้ต้องขัง เรือนจำกลางสมุทรปราการ นำโลงบรรจุศพผู้ต้องขังที่เสียชีวิตระหว่างต้องโทษมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมเกี่ยวกับคดี และสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ ได้รับข้อมูลจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ แจ้งว่าผู้ต้องขังตามที่ปรากฏในข่าว คือ นายนัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องขังในคดีประมวลกฎหมายยาเสพติด ถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ โดยรับตัวไว้เมื่อวันที่ 28 ต.ค.66 จากการตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้นทั่วไปปกติดี จึงควบคุมตัวไว้ที่แดน 4 เพื่อกักโรคตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ย.66 เวลาประมาณ 17.00 น. นายนัฐวุฒิ ได้มีอาการหมดสติไม่รู้สึกตัวอยู่บริเวณห้องน้ำภายในสถานที่ควบคุมแดน 4 เจ้าหน้าที่เวรรักษาการณ์ และเจ้าหน้าที่เวรพยาบาลได้เคลื่อนย้าย และให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับประสานทีมแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้การช่วยเหลือ โดยเมื่อเวลา 17.43 น. ระหว่างการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น ไม่พบสัญญาณชีพของนายนัฐวุฒิ ทางเรือนจำกลางสมุทรปราการ จึงได้แจ้งให้ญาติทราบว่านายนัฐวุฒิได้เสียชีวิตลงแล้ว

กรมราชทัณฑ์ ระบุอีกว่า สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตจากผลชันสูตรพลิกศพ โดยแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ระบุว่า เป็นโรคเส้นเลือดแดงเลี้ยงหัวใจแข็งและตีบ จากนั้นวันที่ 3 พ.ย.66 ญาติได้เดินทางมาที่เรือนจำฯ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดและสอบถามเกี่ยวกับการเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้ตรวจสอบภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆก่อนหน้าเกิดเหตุ พบว่าไม่มีผู้ใดทำร้ายนายนัฐวุฒิ โดยญาติมิได้ติดใจกับการเสียชีวิตแต่อย่างใด จากกรณีดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและขอเน้นย้ำว่าเรือนจำ ทัณฑสถานทุกแห่งภายใต้การดูของกรมราชทัณฑ์ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ต้องขังและสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ทางเรือนจำกลางสมุทรปราการ ได้ให้การช่วยเหลือในการบำเพ็ญกุศลทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.