เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่พรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์หลังการบรรยายสาธารณะในหัวข้อ “ประเทศไทยควรได้อะไร หากต้องใช้ 5 แสนล้าน” ว่าเชื่อมโยงไปถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลหรือไม่ว่า วัตถุประสงค์วันนี้คืออยากให้สังคมได้แลกเปลี่ยนถกเถียงกันว่า ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เราจะเอาไปใช้ทำอะไร ผมก็เสนอทางเลือกเป็นอาหารสมองให้กับสังคม หวังว่าสิ่งที่ตนพูดจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง และตนคิดว่านี่จะเป็นผลดีต่อประชาธิปไตย 

เมื่อถามว่ามองประเด็นเรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า อย่างที่ตนเขียนไปในโพสต์ โดยส่วนตัวตนเห็นว่าประเทศไทยวันนี้ ไม่ได้มีวิกฤติเศรษฐกิจ แน่นอนเศรษฐกิจอาจจะไม่ดีแต่ก็ยังเติบโตอยู่ แต่หากจำเป็นต้องกู้เงินเป็นจำนวนถึง 5 แสนล้านบาท ตนคิดว่าตนไม่เห็นด้วยกับการกู้ครั้งนี้

ต่อข้อถามมองว่าจะได้ผลลัพธ์มากน้อยแค่ไหน นายธนาธร กล่าวว่า อย่างที่ตนพูด ถ้ามี 5 แสนล้านบาท ตนก็บอกแล้วว่าจะเอาไปทำอะไรบ้าง 

เมื่อถามว่ามองว่าการกู้เงินมาใช้จ่ายในดิจิทัลวอลเล็ตไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนในครั้งนี้ใช่หรือไม่ นายธนาธร ส่ายหน้าก่อนตอบว่า ไม่มีความจำเป็นครับ  ส่วนมองว่ากฤษฎีกาจะตีความเรื่องนี้อย่างไรนั้น ตนไม่แม่นในเรื่องนี้ ให้ถามพรรคก้าวไกลจะดีกว่า แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็น จำได้หรือไม่โควิดที่หนักมาก เรากู้ 1.5 ล้านล้านบาท เมื่อเกือบ 2-3 ปีที่แล้ว ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนคิดว่าหนี้ครัวเรือน และหนี้สาธารณะอยู่สูงมาก และทั้งหมดกลับไปที่จุดเดิมที่ตนนำเสนอ ตนคิดว่ามันเกิดจากขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เราไม่มีการแข่งขันอย่างเพียงพอที่จะทำให้ประเทศไทยแข่งขันได้ ดังนั้นถ้าอยากให้ประเทศไทยแข่งขันได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า จำเป็นจะต้องลงทุนในเรื่องการสร้างความสามารถในการแข่งขันตั้งแต่วันนี้ ส่วนสถานะทางเศรษฐกิจยืนยันอีกครั้งเราไม่ได้คิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาท 

เมื่อถามว่าหากหลายฝ่ายมองว่าการออกมาแสดงความเห็นในครั้งนี้เป็นการดิสรัปชั่นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคเพื่อไทย  นายธนาธร กล่าวว่า ตนเสนอแนะเป็นทางเลือกมากกว่า แน่นอนที่สุดพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเมื่อฟังความคิดเห็นจากเราแล้ว จะเอาไปทำหรือไม่ทำก็แล้วแต่ ยืนยันว่าถ้าเพื่อไทยสนใจเรื่องไหน มานั่งพูดคุยกัน เราก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล และพร้อมเล่าถึงแนวทางของเราให้พรรคเพื่อไทยฟัง อันนี้ไม่ปิดบังเลย อะไรที่เป็นผลประโยชน์กับประชาชนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล และประสบการณ์ที่เราเคยทำมาแล้วในหลายๆ เรื่อง

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไปแล้ว หากไม่ทำก็ไม่ได้ จะมีทางออกแนะนำหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนคิดว่าพูดตรงไปตรงมากับประชาชนน่าจะดีที่สุด คิดว่าประชาชนน่าจะให้โอกาสพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามเรามองคนละมุม ตนมองว่าสถานะทางเศรษฐกิจไม่ได้วิกฤติขนาดที่จำเป็นต้องกู้ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยเองบอกว่าสภาวะทางเศรษฐกิจสาหัสมากแล้วจำเป็นต้องกู้ จริงๆ แล้วกู้ในงบประมาณแผ่นดินก็ได้ เพราะงบประมาณแผ่นดินมันก็กู้อยู่แล้วโดยปกติ พอมองคนละจุดก็พูดลำบาก ตนก็เสนอว่าถ้ามี 5 แสนล้านบาท เป็นตน ตนจะนำสิ่งที่ต่างๆ ที่ได้นำเสนอไป ส่วนพรรคเพื่อไทยจะนำไปใช้อย่างไร ก็เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย แต่หากต้องการมานั่งพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ ตนก็ยินดี

เมื่อถามว่าเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มหรือไม่หากกู้มาเพื่อใช้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ นายธนาธร กล่าวว่า อย่าถามตนดีกว่าว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม มันหมุนได้กี่รอบ ตนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง