เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากคนงานขับรถแบ๊กโฮ ที่ปรับพื้นที่อยู่บริเวณหลังศูนย์ Isuzu สาขาสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าได้พบงูขนาดใหญ่ไม่ทราบชนิด ขอให้ช่วยจับออกจากพื้นที่ นำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย 2 นาย ได้เข้าให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุอยู่บนเนื้อที่หลาย 10 ไร่ กำลังมีการปรับพื้นที่ จากเดิมที่เป็นป่าหญ้ารกร้าง จุดที่พบงูขนาดใหญ่ อยู่บริเวณริมกำแพง จากการตรวจสอบ ยังไม่ทราบชนิด มีลักษณะตัวสีดำ ผิวหนังเปื่อยหลุดร่อน ความยาวกว่า 4 เมตร ขนาดลำตัวเท่าท่อนขา น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม กำลังนอนขดตัวแน่นิ่งไม่ขยับตัว จนเจ้าหน้าที่คิดว่า งูน่าจะตายแล้ว แต่ไม่นานเมื่องูรู้ว่ามีคนมารบกวน ก็ได้เริ่มชูคอโผล่หัว ดวงตาทั้ง 2 ข้าง เป็นสีส้มเบิกโพลง จนสร้างความสุดสะพรึง ทำเอาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเชื่อกันว่า น่าจะเป็นงูเจ้าที่ที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้มานานแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัย 2 นาย ได้เข้าทำการปิดล้อม และเคลียร์พื้นที่บริเวณดังกล่าว ก่อนจะใช้มือเปล่าดึงที่บริเวณหางงู ลากตัวออกมายังพื้นที่โล่งแจ้ง ซึ่งงูได้พยายามจะเลื้อยหนี และจะฉกเจ้าหน้าที่หลายครั้ง ต้องใช้เวลานานเกือบ 30 นาที จึงจะสามารถสยบจับงูตัวนี้ไว้ได้ ซึ่งทราบภายหลัง คือ งูเหลือม ถูกบรรจุใส่ถุงกระสอบ นำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ พื้นที่ห่างไกลบ้านเรือนประชาชน

ด้าน นายวิชา จินดานิล อายุ 43 ปี หน่วยกู้ภัยนามเรียกขาน 142 เป็นหนึ่งในผู้จับงู เปิดเผยว่า งูตัวนี้ต่างจากงูเหลือมทั่วไป ซึ่งตอนเข้าจับ พบมีสีดำทั้งตัว จนไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นงูชนิดใด หลังได้มีการจับงูในวันนั้น ร่างกายก็เริ่มป่วย ร้อนๆ หนาวๆ ซึ่งก่อนหน้าร่างกายปกติแข็งแรงดี ที่สำคัญ ขณะนำปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ตอนนำงูออกจากถุง ก็แน่นิ่งไม่ยอมเลื้อยไปไหน จึงได้นำก้อนหินโยนไล่ให้เลื้อยเข้าป่า แต่ดันพลาดไปถูกที่หัวของงู เชื่อว่า เป็นงูเจ้าที่ การย้ายออกจากพื้นที่ น่าจะเป็นการไปรบกวน อีกทั้งก้อนหินที่ถูกหัว อาจจะไปลบหลู่ จนต้องล้มป่วยกะทันหัน ซึ่งหากไม่ดีขึ้น จะไปจุดธูปขอขมา.