เมื่อวันที่ 27 พ.ย. จากกรณีเกิดเหตุสลด เจ้าบ่าวรัวยิงเจ้าสาว แม่ยาย พร้อมญาติเสียชีวิตในงานแต่ง ก่อนจะยิงตัวตายหนีผิด รวมมีผู้เสียชีวิตถึง 5 ศพ เหตุเกิดในพื้นที่ ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของเจ้าบ่าว ในพื้นที่ ต.กระชอน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ปรากฏว่าประตูบ้านปิดล็อก บรรยากาศเงียบสงบ ไม่มีผู้ใดอยู่ภายในบ้าน จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า ป้าและแม่ของผู้ตาย เดินทางไปติดต่อขอรับศพที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับตาเขยของเจ้าบ่าวผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ทราบมาว่าหลานชายได้คบหาดูใจกับทางเจ้าสาวมาประมาณ 5 เดือน ก่อนตกลงปลงใจแต่งงานกัน พอถึงวันงาน ทางครอบครัวได้เหมารถตู้จาก อ.พิมาย ไปร่วมงานแต่งของหลานชายที่ อ.วังน้ำเขียว ซึ่งตัวของหลานชายไม่ได้นั่งรถไปพร้อมกับทางครอบครัว เนื่องจากว่าหลานชายรออยู่ที่บ้านของเจ้าสาวแล้ว บรรยากาศการเดินทางก็ราบรื่นดี

จากนั้นพอมาถึงที่บ้านเจ้าสาว ก็เริ่มพิธีทางศาสนาตามปกติ มีการมอบสินสอดให้กับทางเจ้าสาวเป็นเงินสด 1 แสนบาท พร้อมสร้อยคอรูปพรรณหนัก 3 บาท การผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อเป็นสิริมงคลแก่คู่รักทั้งสอง ระหว่างที่อยู่ในงาน ตนเองสังเกตเห็นว่าหลานชายเหม่อลอย คล้ายกับคนกำลังมีความเครียด ไม่ยอมกินข้าว จนกระทั่งเสร็จงาน ทางครอบครัวก็เดินทางกลับมาที่ อ.พิมาย

ญาติร่ำไห้รอรับศพเหยื่อ ‘วิวาห์มรณะ’ เจ้าบ่าวอดีตทีมชาติ ฟิวส์ขาดยิงเจ้าสาว-ญาติดับ5ศพ

จนกระทั่งรุ่งเช้าตื่นมาถึงมาทราบข่าวว่า หลานชายก่อเหตุยิงภรรยาตนเองและครอบครัว รู้สึกสลดและหดหู่มาก คาดว่าอาจจะเป็นปมปัญหา หลานชายกับทางหลานสะใภ้ที่เคลียร์กันไม่ลงตัว ทำให้หลานชายตัดสินใจก่อเหตุในครั้งนี้

ด้านนายอาคม ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า เจ้าบ่าวไม่ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมานานแล้วกว่า 20 ปี หลังจากที่พ่อแม่เจ้าบ่าวได้เลิกรากันไป แม่ของเจ้าบ่าวก็รับไปดูแลในตัวเมืองโคราช นานๆ ครั้งจะกลับมาเยี่ยมป้า ก่อนวันเกิดเหตุ ป้าของเจ้าบ่าวได้มาหาตนเองที่บ้านและบอกว่าจะเชิญไปร่วมงานแต่งของเจ้าบ่าว อยากให้มีญาติผู้ใหญ่ไปร่วมงานด้วย แต่เนื่องจากว่าตนเองติดโควิด เลยไม่ได้ไปร่วมงาน มาทราบข่าวอีกทีตอนเช้าตรู่ มีลูกบ้านโทรฯ มาบอกว่า รู้ข่าวไหมว่าเจ้าบ่าวก่อเหตุยิงยกครัว ทีแรกไม่เชื่อเลยว่า เจ้าบ่าวจะก่อเหตุยิงเจ้าสาวตัวเองตาย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของเจ้าบ่าวผู้ก่อเหตุ ได้สังเกตไปยังศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน พบน้ำแดง 2 ขวด น้ำเปล่า 2 ขวด ซึ่งเพิ่งมีรอยเปิดใหม่ๆ อีกทั้งมีการจุดธูป 9 ดอก เพื่อบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางตามความเชื่อของคนในพื้นที่ ก่อนจะออกเดินทางไปงานพิธีมงคล ปรากฏว่ามีธูปหนึ่งดอกที่ไม่ไหม้ ชาวบ้านในพื้นที่เผยธูปหนึ่งดอกเป็นการไหว้ศพ จึงต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา และเชื่อกันว่าเป็นลางบอกเหตุร้ายในครั้งนี้