เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูสสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาล ทลายกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิง นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือ น้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และ น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ หรือ ครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา

ตะลึงแก๊งยิง ‘เด็กช่าง-ครูเจี๊ยบ’ ถอดแผนคดีเก่า ลงมืออย่างไรให้รอดจับกุม

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงเช้ามืด โดยการนำหมายค้นเข้าตรวจค้นทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 14 จุด จับกุมผู้ต้องหารวม 12 ราย ประกอบด้วยตัวผู้ต้องหา 12 คน 1.นายชนัญชิต แสงจันทร์ (เป๊ปซี่) อายุ 21 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1192/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” โดยนายเป๊ปซี่ เป็นบุคคลที่ไปเยี่ยมเพื่อนที่ถูกจับชุดแรก ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ และกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับแพะ (สวมเสื้อสีเทา คลุมหัว กางเกงดำแถบแดง) 2.นายจิรเมธ นามณรงค์ อายุ 20 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1191/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)”

3.นายกันตพงศ์ พรมพิทักษ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1193/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” 4.นายขจรศักดิ์ แต้มชัยภูมิ อายุ 25 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1195/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” 5.นายกรกฎ ตื้อแอ้ อายุ 20 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1196/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” 6.นายสุขสันต์ กองแก้ว อายุ 22 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1197/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” 7.นายชุมนุมโชค เอี่ยมปาน อายุ 21 ปี ชาว จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1199/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)”

8.นายนครินทร์ นาคิน อายุ 29 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1201/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” 9.น.ส.อัญญารัตน์ ทองสุข อายุ 24 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1203/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “สนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” 10.นายธนโชติ บุญสงเคราะห์ อายุ 22 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1204/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “สนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” 11.นายนพวุฒิ เรืองศรี อายุ 25 ปี ชาวกรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1074/2566 ลงวันที่ 22 พ.ย. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่ง อย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้” และ 12.นายณัฏฐกิตต์ คำเก่า อายุ 33 ปี ชาว จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.1202/2566 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)”

พร้อมตรวจยึดของกลาง อาวุธมีด 2 เล่ม เสื้อสถาบัน รวม 11 ตัว ปืนพกออโตเมติก 1 กระบอก และลูกกระสุนขนาด .45 จำนวน 1 กล่อง สำหรับพื้นที่ที่เข้าตรวจค้นมีทั้งหมด 14 แห่ง ตามหมายค้นของศาลอาญาที่ ค.1500/2566 ลงวันที่ 17 ธ.ค. 66 ใน 4 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ-นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ

ทั้งนี้สำหรับตัวนายนพวุฒิ ผู้ต้องหาตามหมายจับเก่า ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในการทำหน้าที่ ชี้เป้า ก่อนที่ 2 ผู้ต้องหาคือ นายอนาวิน แก้วเก็บ และนายอับดุลเลาะ ดือราแม มือยิงและคนขี่รถ จยย.จะก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด เสียชีวิต และในกลุ่มผู้ต้องหาอีก 11 รายที่จับกุมตัวได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังพบว่า นายชนัญชิต หรือ เป๊ปซี่ เป็นบุคคลที่เคยไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นกลุ่มผู้ต้องหาลอตแรก ในช่วงวันที่ 23 พ.ย. ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และอ้างว่า ทุกคนที่ถูกตำรวจจับเป็นแพะรับบาป มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของนักศึกษาปทุมวันแน่นอน แต่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มคู่อริสถาบันอื่น ที่เคยมีเรื่องบาดหมางนักศึกษาอุเทนถวายยืนยันว่าไม่ได้รวมตัวกันเป็นแก๊งก่ออาชญากรรมแต่รวมตัวกันเพื่อติวหนังสือ พร้อมกับท้าทายให้ไปเจอกันในชั้นศาล และนายชนัญชิต ยังเคยร่วมกันก่อเหตุยิงถล่มงานแต่งงานเมื่อกลางเดือน ส.ค.2565 เหตุเกิดพื้นที่ สน.สุทธิสาร ซึ่งอัยการได้มีคำสั่งฟ้องและส่งตัวผู้ต้องหาไปเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.

ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามนายชนัญชิต ว่า ณ วันนี้ยังบอกว่าเป็นการจับแพะอยู่หรือไม่ แต่นายชนัญชิต ไม่ตอบคำถามใดๆ และถูกคุมตัวขึ้นไปสอบปากคำทันที โดยผู้ต้องหาที่ถูกคุมตัว ทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย และเมื่อมาถึงที่ ศูนย์สืบสวนนครบาล ตำรวจก็คุมตัวขึ้นไปทำการสอบปากคำทันที ทั้งนี้ยังพบด้วยว่า ผู้ต้องหาหลายคนที่ถูกคุมตัวมา มีสัญลักษณ์ฟันเฟืองที่ต้นแขนซ้าย 4 ปั๊มด้วย

ซึ่งการสอบปากคำในครั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง เพื่อขยายผล และเร่งล่าตัวนายอนาวิน และนายอับดุลเลาะ 2 ผู้ต้องหา ขี่รถ จยย. ที่ยังหลบหนีอยู่ด้วย เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 12 รายยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า ระบุว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้เดินเกมเงียบ ในการปิดเมืองล่ามือปืน ที่ก่อเหตุเมื่อ 11 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาอุเทนถวายและครูเจี๊ยบเสียชีวิต ย่านคลองเตย กทม. ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ได้เปิดปฏิบัติการรอบแรก จับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการต่อเนื่องในการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการ โดยตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ทางตำรวจได้รวบรวมหลักฐานทั้ง พยานบุคคล, พยานแวดล้อม และพยานวัตถุ จนพบกลุ่มไลน์ของคนกลุ่มร้าย และทราบว่ากลุ่มคนร้ายวางแผนทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ มีการรวบรวมเงินเพื่อเช่าเซฟเฮาส์ วางแผนการก่อเหตุ หาปืน หายานพาหนะในการหลบหนี มีการฝึกยิงปืนจากรุ่นพี่ ซึ่งหลักฐานที่ได้มาคนร้ายมีเป้าหมายชัดเจนในการก่อเหตุ อีกทั้งคนกลุ่มนี้จะมีการรับน้องในวันที่ 12 พ.ย. จะต้องมีการก่อเหตุก่อนรับน้อง จึงลงมือก่อเหตุวันที่ 11 พ.ย. โดยมีการตระเตรียมการไว้แล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. จำนวน 14 หมายจับ ร่วมกันสมคบตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำนวน 12 หมายจับ และให้การสนับสนุนผู้กระทำความผิด อีก 2 หมาย โดยมีการนำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย ตรวจค้น 14 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 12 ราย เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทุกคนยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งทั้งหมดจะให้การอย่างไร ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา ก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาลต่อไป

ทั้งนี้จากการประชุมกับทั้ง 2 สถาบัน ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย และพยายามหาทางแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพราะกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม เนื่องจากมีการวางแผนเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนและหลังการลงมือ รวมถึงหากมีใครถูกจับกุมได้ ก็จะมีการรวบรวมเงินกันจ้างทนายในการสู้คดี

ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ยืนยันว่า วิน กับ เลาะ 2 ผู้ต้องหาในคดียิงครูเจี๊ยบ ที่ยังหลบหนี ตำรวจกำลังไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง จะไม่เลิกไล่ล่าถ้ายังไม่ได้ตัว หากมีใครให้การช่วยเหลือ สนับสนุน พาหลบหนี ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือ ญาติ มีโทษตามกฎหมายทั้งหมด และฝากถึงนักศึกษาทุกคน อยากให้ตั้งใจเรียน หาความรู้ ผิดไปแล้วขอให้ปรับตัวแก้ไข ผู้ปกครองก็ต้องใส่ใจดูแลลูกหลานท่านให้ดี ส่วนทางตำรวจมีหน้าที่ระงับเหตุ และจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด