เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้( 22 ธ.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 จับกุม กิ๊ป บ้านช่างหล่อ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 709/2566 ลงวันที่ 4 ต.ค. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้” โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณลานจอดรถ ที พี คอนโด ซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ผ่านเพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.กาญจนาพร หลอกชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อชุดตรวจโควิด, หลอกขายตั๋วภาพยนตร์, หลอกขายโค้ดป๊อปคอร์น โดยเฉพาะในการหลอกร่วมลงทุนซื้อชุดตรวจโควิด มีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8,346,974 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 22 ธ.ค. เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมไว้ได้ก่อนนำตัวไปสอบสวน

สอบสวนเบื้องต้นให้การภาคเสธ ว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่า เมื่อช่วงประมาณต้นเดือน ก.พ. 65 ได้มีบุคคลซึ่งรู้จักกันผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายบัญชีธนาคาร ชื่อกลุ่ม “ซื้อ/ขายบัญชีธนาคาร” ชื่อเล่นว่า “ส้ม” (สงวนชื่อสกุลจริง) ซึ่งขณะนั้นใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊กว่า “สายป่าน สายหยุด” ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อบัญชีมาใช้ชื่อบัญชี “เมื่อมีนัด สายเสมอ” โดยมีการโพสต์ในเฟซบุ๊กกลุ่มซื้อบัญชีธนาคารกลุ่มดังกล่าว ว่า “ขอคนพร้อมทำ … 3 เล่ม กทม. ลาดพร้าว บางกะปิ” เมื่อตนเห็นจึงสนใจ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงสถานการณ์โควิด ตนไม่เงินใช้จ่าย จึงได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวทักไปหา น.ส.ส้ม ว่าสนใจที่จะเปิดบัญชีธนาคารให้ น.ส.ส้ม เสนอค่าจ้างในการเปิดบัญชีให้ 1,500 บาท เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ตนได้ถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนส่งให้ น.ส.ส้ม เพื่อตรวจสอบประวัติคดี

ผู้ต้องหาให้การอีกว่า เมื่อตรวจสอบประวัติคดี น.ส.ส้ม เคยขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้ติดต่อและนัดหมายสถานที่เพื่อไปทำการเปิดบัญชีที่ธนาคาร โดยนัดหมายกันเปิดบัญชีที่ ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาห้างเซ็นทรัลบางนา เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 65 นอกจากนี้ บางครั้ง น.ส.ส้ม ยังจ้างให้ตนทำหน้าที่โทรศัพท์หาธนาคารต่างๆ ซึ่งเป็นธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อเช็กสถานะบัญชีของบุคคลที่ น.ส.ส้ม จ้างให้เปิดบัญชี เพื่อทราบว่าบัญชีธนาคารที่จ้างเปิดแต่ละบัญชีนั้น มีความเคลื่อนไหวทางบัญชีหรือไม่อย่างไร โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 500 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 ซึ่งเป็นวันที่ตนถูกจับตามหมายจับในความผิดฐาน “โดยทุจริต นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง ตนได้ทักเฟซบุ๊กไปหา น.ส.ส้ม เพื่อแจ้งว่าถูกจับ ปรากฏ น.ส.ส้ม ได้พิมพ์ข้อความตอบกลับมาว่า “ซื้อเฟซบุ๊กต่อมา ไม่ทราบเรื่องว่าผู้ใช้คนเก่าใช้ทำอะไรมา” และอีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ เฟซบุ๊กดังกล่าวที่ น.ส.ส้ม เคยใช้คุยกับตนก็ปิดกั้นเฟซบุ๊กตน ทำให้ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ส้ม ได้อีกเลย จนมาถูกจับกุมในครั้งนี้ และที่ผ่านมาตนเคยรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารมาแล้วประมาณ 4 บัญชี โดยทุกบัญชีไม่สามารถจำเลขที่บัญชีธนาคารได้

จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลตำรวจ พบว่า น.ส.กาญจนาพร มีประวัติถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล 3 คดี ประกอบด้วย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ จ.135/2565 ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” สถานะถูกจับกุม 2.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 345/2566 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” สถานะถูกจับกุม และ 3.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 709/2566 ลงวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ” เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย.