แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ หลัง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ผู้ก่อตั้ง “อีเนออส” บริษัทปิโตรเคมีชื่อดังระดับโลก ยืนยันการควักเงิน 1,300 ล้านปอนด์ ซื้อหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ของสโมสรไปครอบครอง พร้อมสิทธิบริหารจัดการเรื่องฟุตบอลทั้งหมดของสโมสร ทั้งทีมชาย ทีมหญิง และอคาเดมี

เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ คือใคร? ชีวิตและผลงานที่ผ่านมาของเขาเป็นอย่างไร? และทำไมแฟนบอล “ผีแดง” จึงตั้งความหวังว่า เขาจะเป็นคนพาสโมสรกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง?

เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ วัย 71 ปี เกืดเมื่อ 18 ต.ค. 1952 ที่เฟลส์เวิร์ธ เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างเมืองแมนเชสเตอร์ และ โอลด์แฮม และนั่นคือเหตุผลที่เขาเป็นแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตลอดชีวิต โดยในวัยเด็ก เขาอาศัยอยู่ในบ้านเอื้ออาทรของรัฐจนถึง 10 ขวบ พ่อเป็นช่างไม้ แม่เป็นพนักงานบัญชี ฐานะครอบครัวห่างไกลจากการเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในเกาะอังกฤษ อย่างทุกวันนี้ลิบลับ แต่มีความสนใจในแวดวงอุตสาหกรรมตั้งแต่อายุยังน้อย

แรตคลิฟฟ์ จบปริญญาจากยูนิเวอร์ซิตี ออฟ เบอร์มิงแฮม ในสาขาวิศวกรรมเคมี เมื่อปี 1973 และเริ่มทำงานกับ “BP” บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ แต่ถูกให้ออก หลังบริษัทพบว่าเขามีประวัติเป็นโรคผิวหนัง เขาจึงหันไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ลอนดอน บิสซิเนส สคูล หลังจากนั้น เขาผ่านประสบการณ์ทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง รวมถึง “ESSO”

ถึงปี 1989 เขาย้ายข้ามฟากไปทำงานกับ Advent International ซึ่งเป็นเหมือนการก้าวกระโดดในอาชีพ 3 ปีหลังจากนั้น ในวัย 40 ปี แรตคลิฟฟ์ กำเงิน 40 ล้านปอนด์ กลับอังกฤษ ไปเทคโอเวอร์แผนกเคมีของ “BP” และก่อตั้งบริษัท “INSPEC” เป็นธุรกิจแรกที่เขาเป็นเจ้าของด้วยตัวเอง และปั้นจนกลายเป็นบริษัทด้านเคมีอันดับ 4 ของโลก

5 ปีต่อมา แรตคลิฟฟ์ ก่อตั้ง “INEOS” และทุ่มหมดหน้าตัก โดยใช้วิธีการเข้าไปควบรวมกิจการกับบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง จนทำให้มูลค่าของ “INEOS” พุ่งกระฉูด โดยเฉพาะการเทคโอเวอร์ธุรกิจปิโตรเคมีของ “BP” เมื่อปี 2005 ทำให้มูลค่าของ “INEOS” เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัวในชั่วข้ามคืน ทำให้เจ้าตัวมีสถานะเป็น “อภิมหาเศรษฐี” อย่างสมบูรณ์แบบในทันที

ส่วนในแวดวงกีฬา แรตคลิฟฟ์ เริ่มต้นด้วยการเทคโอเวอร์ เอฟซี โลซาน-สปอร์ต ทีมลูกหนังในลีกสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 2017 ตามด้วยการควักเงิน 91 ล้านปอนด์ ซื้อกิจการ นีซ ทีมในลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อปี 2019 และพาทีมยกสถานะเป็นทีมระดับหัวตาราง โดยซีซั่นปัจจุบัน พวกเขารั้งรองจ่าฝูง หลังผ่าน 17 นัด ได้ลุ้นแชมป์เต็มตัว

นอกจากแวดวงฟุตบอลแล้ว “INEOS” ยังเป็นสปอนเซอร์ของทีมเมอร์เซเดส ในศึก เอฟ วัน เป็นเจ้าของ “ทีม สกาย” และพาทีมคว้าแชมป์จักรยานทางไกล “ตูร์ เดอ ฟรองซ์” 7 สมัย และปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “อีเนออส เกรนาดิเยร์ส” และยังเป็นพาร์ทเนอร์กับอีกหลายหลายทีมกีฬาทั่วโลก

แต่ดูเหมือนว่าฟุตบอลยังคงเป็น “แพสชั่น” สูงสุดในแวดวงกีฬาสำหรับ แรตคลิฟฟ์ เขาวางแผนในการบุกวงการฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่ปี 2019 โดยเมื่อปี 2022 “INEOS” ยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์ เชลซี แต่พ่ายให้กับกลุ่มทุนของ ท็อดด์ โบห์ลี จนกระทั่งล่าสุด พวกเขาจึงยืนยันการเข้าไปถือหุ้น “ผีแดง” 25 เปอร์เซ็นต์ดังกล่าว

ด้วยเม็ดเงินที่มี แผนการระยะยาว การลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในสโมสร รวมถึงสนามซ้อมและสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด บวกกับความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลงานของทีม ที่พวกเขาแสดงออกมา แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด จึงมีสิทธิที่จะตั้งความหวังถึงการกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า มันเป็นเรื่องง่ายแต่อย่างใด