เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านสี่เหลี่ยม หมู่ 11 ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ว่า ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน 946,101 บาท ซึ่งได้ไปแจ้งความไว้แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 140 บ้านสี่เหลี่ยม หมู่ 11 ต.โคกยาง พบกับ นางลัดดาวัลย์ ระย้าทอง อายุ 59 ปี ผู้เสียหาย โดยเล่าว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 66 ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้แสดงตนเป็นตำรวจ สภ.เบตง จ.ยะลา ได้โทรศัพท์เข้ามาพร้อมกับแอดไลน์แล้วหลอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จะต้องหาเงินมาประกันตัว 200,000 บาท เมื่อหลงเชื่อก็ได้โอนเงินไปยังบัญชีปลายทางตามที่กลุ่มมิจฉาชีพบอกจำนวนหลายครั้งรวมเป็นเงิน 946,101 บาท ในระหว่างที่คุยกับมิจฉาชีพทางไลน์ ทางมิจฉาชีพได้แจ้งกับตนว่า ห้ามนำเรื่องราวนี้ไปบอกใครมิฉะนั้นจะไม่ช่วย ด้วยความกลัว จึงไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งลูกชายของตนที่ทำงานอยู่นอกพื้นที่

“หลังจากนั้นจึงได้ไปขอเงินลูกชาย และเอาโฉนดที่นาไปจำนำ พร้อมกับยืมเงินเพื่อนบ้านไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เพื่อนบ้านจึงเอะใจจึงได้มาสอบถามว่านำเงินมาทำอะไร หลังจากนั้นจึงให้เพื่อนบ้านดู จึงได้ทราบว่าถูกหลอก จากนั้นได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 ที่ สภ.ทมอ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แต่เรื่องก็เงียบไม่มีการแจ้งความคืบหน้าอะไรให้กับทางตนทราบ จึงได้มาร้องสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงอีกทางหนึ่ง เพราะว่าตอนนี้มืดไปหมดทุกทิศแล้วไม่รู้จะทำยังไง กินข้าวก็ไม่ได้ นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ คิดแต่เรื่องนี้” นางลัดดาวัลย์ กล่าว

ด้านนางคลองทรัพย์ เจนรอบ อายุ 54 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า เห็นนางลัดดาวัลย์ เดินไปเครียดไป ยืมเงินเขาคนนั้น ยืมเงินคนนี้ ทำไมแปลก แกยืมเงินบ่อย ยืมเงินเยอะ แกเอาไปทำอะไร ก็เลยไปถามแก จนแกไปหาเงินคนเยอะๆ ก็ไปถามว่าทำไม จึงได้รู้ความจริงว่าถูกมิจฉาชีพหลอก.