ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “ศิริพงค์ แนบกลาง” ได้มีการโพสต์ข้อความพร้อมภาพ ว่า “ไปยิงมันทำไม หมาผมมันอยู่ในบ้าน มีรั้วบ้านกั้นไม่ได้ออกไปข้างนอก หมาผมตัวนี้ทุกคนรักมันหมดทั้งซอยนั้น ไม่เคยกัดใคร ไม่เคยไล่รถ เล่นกับเด็กในหมู่บ้านทุกคน ยิงนัดแรกน้าผมก็ตักเตือนว่าอย่ายิงมันเลย ยิงนัดสองกรอกปากอีก” นอกจากนี้ยังมีการโพสต์ถึงอาการของน้องหมา ว่า “วิถีกระสุนโดนยิงจากใต้คางทะลุลำคอขึ้นท้ายทอย เฉียดหลอดลมและเส้นเลือดใหญ่” อีกด้วย

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 7 ต.ปะอาว อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านจุดเกิดเหตุ โดยได้พบกับ น.ส.ลำบาง พรหมวงษ์ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ดูแลสุนัขตัวดังกล่าว แทนนายศิริพงค์ แนบกลาง หลานชาย ซึ่งเป็นเจ้าของหมา ทำงานอยู่กรุงเทพฯ และเป็นผู้โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าว ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่คนร้ายใช้ปืนยิงหมาอยู่บริเวณข้างบ้าน

น.ส.ลำบาง เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า สุนัขตัวดังกล่าวเป็นสุนัขพันธุ์ “ลาบราดอร์” เพศเมีย ชื่อ “ลูซี่” เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 25 ธ.ค. 66 เวลาประมาณ 02.00 น. ตอนนั้นที่บ้านมี ตน สามี ลูก และหลาน อยู่ที่บ้าน กำลังนอนอยู่ในห้องนอนบนชั้นสอง ได้ยินเสียงหมาเห่าพร้อมกับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนจึงตื่นลุกขึ้นมาดูที่หน้าต่างพร้อมกับสามี เห็นมีคนห่มผ้าเดินมาที่ถนนข้างบ้าน พร้อมกับถือปืนยาวมาด้วย ก่อนจะเห็นผู้ก่อเหตุยกปืนขึ้นมาจ่อยิงหมาตนที่กำลังเห่า

“ตนเห็นแบบนั้นจึงร้องบอกว่าอย่าทำหมา มันเห่าเฉยๆมันไม่ได้ทำอะไร แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟังเอาปืนยิงกรอกปากหมา 1 นัด ก่อนที่หมาของตนจะวิ่งเลือดอาบมาที่หน้าบ้าน ตนรีบลงมาดูหมา และรีบโทรฯเรียกคนให้มาช่วยพาหมาไปโรงพยาบาลสัตว์” น.ส.ลำบาง กล่าว

น.ส.ลำบาง กล่าวต่อว่า ซึ่งปกติหมาที่ตนเลี้ยงไม่ได้ปล่อยให้ออกไปนอกบ้านเลย จะขังไว้อยู่บริเวณบ้านอย่างดี เพียงแต่หมาของตนจะชอบเห่าก็เท่านั้น ตนไม่รู้จริงๆว่าทำไมต้องมายิงมาของตน ส่วนผู้ก่อเหตุตนก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรกันเลย หมาของตนก็ไม่เคยไปกัด หรือ ทำร้ายใครเลย มีแต่เห่าเท่านั้น ทั้งนี้บ้านผู้ก่อเหตุก็ห่างจากที่เกิดเหตุแค่ประมาณ 200 เมตร เท่าที่ตนคิดได้ คิดว่าแรงจูงใจที่ก่อเหตุน่าจะเกิดจากหมาเห่าเสียงดังเท่านั้น ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของสุนัข

อย่างไรก็ตามสำหรับอาการล่าสุดของสุนัขตัวดังกล่าว ตอนนี้หมอได้ผ่ากระสุนที่ฝังในบริเวณท้ายทอยของออกมาได้แล้ว มีจำนวน 1 นัด ซึ่งอยู่ระหว่างการพักฟื้น ส่วนผู้ก่อเหตุตอนนี้ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ทางเจ้าของจึงอยากจะให้ผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบกับการกระทำด้วย

ต่อมามีรายงานเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอุทุมพรพิสัย ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมเก็บหลักฐาน และสอบปากคำผู้เสียหาย เบื้องต้นไว้แล้ว เพื่อดำเนินกับหนุ่มใจบาปรายนี้ตามกฎหมายต่อไป.